น้ำท่วมพ่นพิษ ผักสด อาหาร ราคาพุ่งกระฉูด บางรายการเริ่มขาดแคลน เหตุโรงงานผลิตส่วนใหญ่จมน้ำ ประชาชนแห่ซื้อของตุนสู้ภัยน้ำท่วมล้นทะลักกระทรวงพาณิชย์ พร้อมประสานดอนเมืองขอใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าให้ 5 ห้างใหญ่ กันขาดแคลน ขณะที่ ส.อ.ท.ส่งสัญญาณเตือน “พาณิชย์” เร่งเช็กสต๊อกสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคด่วนเพื่อวางแผนรับมือ หวั่นสินค้าขาดแคลนและราคาแพงซ้ำเติมประชาชน และการส่งออกทั้งไทยและระดับภูมิภาค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำที่ไหลบ่าทะลักเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งให้ราคาอาหาร และผักสดในตลาดเขตกรุงเทพฯ และชาญเมือง โดยเฉพาะตลาดยิ่งเจริญ ย่านสะพานใหม่ ตลาดสี่มุมเมือง ย่านรังสิต ราคาขยับขึ้นกว่าเท่าตัว โดยราคาผักกวางตุ้งขึ้นจาก กก.15-17 บาท เป็น 28-30 บาท ผักกาดขาว 20-22 บาท เป็น 45 บาท กะหล่ำปลี 15-18 บาท เป็น 30-35 บาท ถั่วฝักยาวจาก 20-25 บาท เป็น 55-70 บาท ผักคะน้ำจาก 25-28 บาท เป็น 50 บาท มะเขือเทศจาก 20 บาท เป็น 40 บาท รวมถึงไข่ไก่เบอร์ 5 ที่ปรับขึ้นมากจากแผง 30 ฟอง ราคา 80-90 บาท เป็น 115-120 บาท ส่วนเนื้อหมู ไก่ ราคายังปกติ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามสาเหตุที่สินค้าราคาแพง เนื่องจากพื้นที่ปลูกผักส่วนใหญ่ใน จ.นครปฐม และเขตตลิ่งชัน ถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับการขนส่งทำได้ลำบาก เพราะหลายเส้นทางถูกตัดขาดจากกระแสน้ำ โดยเฉพาะตลาดไท แหล่งกระจายสินค้าขนาดใหญ่ที่กำลังถูกน้ำท่วมโดยรอบ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า บรรยากาศการจัดงานธงฟ้าสู้ภัยน้ำท่วม ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ นนทบุรี เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) มีประชาชนเดินทางมาเข้าคิวแห่ซื้อสินค้ากันอย่างเนื่องแน่นตั้งแต่เช้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะสินค้าไข่ไก่ ข้าวถุง น้ำมันพืช เนื้อหมู รองเท้าบูธ น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งมีราคาถูกว่าท้องตลาด 20-40% มีชาวบ้านต่อคิวเข้าแถวซื้อมากกว่า 100-200 คน ส่งผลให้สินค้าหมดลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า ในวันนี้ จนถึงวันที่ 21 ต.ค.จะเพิ่มปริมาณสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ขณะนี้เริ่มหาซื้อสินค้าอุปโภคยากขึ้น โดยเฉพาะนมข้นหวาน และผลิตภัณฑ์นม ในตลาดย่านนนทบุรีขาดตลาดอย่างหนัก เนื่องจากโรงงานผลิตส่วนใหญ่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมในจ.พระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานกระจายสินค้าเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ห้างโมเดิร์นเทรด 5 แห่ง ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แมคโคร ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี และ เทสโก้ โลตัส ได้ขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ฯ ให้ประสานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในการเปิดพื้นที่บริเวณสนามบินดอนเมืองให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าชั่วคราวของห้างทั้ง 5 แห่ง
นอกจากนี้ ได้ประสานกองทัพเพื่อจัดหารถบรรทุกทหาร (ยีเอ็มซี) เข้าไปขนสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าของห้างแต่ละแห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม มาพักไว้ที่ดอนเมืองก่อนเพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาด
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเข้าพบและหารือกับนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เพื่อขอบคุณรัฐบาลจีนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในไทย และเจรจาเพิ่มการค้าการลงทุนสองฝ่าย รวมถึงขจัดอุปสรรคทางการค้าสองฝ่าย
***ส.อ.ท.เตือน “พาณิชย์” รับมือสินค้าขาดแคลน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่รัฐบาลยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมถึงภาวะการขาดแคลนสินค้าโดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภค และรวมไปถึงการขาดแคลนวัตถุดิบในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมเนื่องจากโรงงานถูกน้ำท่วมจำนวนมากซึ่งท้ายที่สุดจะกระทบให้การผลิตสินค้าลดต่ำลงและจะกระทบส่งออกในวงกว้าง ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะต้องลงมาตรวจเช็กเพื่อที่จะออกมาตรการในการดูแลอย่างทันท่วงทีก่อนที่ปัญหาการขาดแคลนจะรุนแรง
“เวลานี้เราต้องยอมรับว่าสินค้าอุปโภค บริโภคเริ่มมีปัญหาบางพื้นที่เพราะระบบการขนส่งหรือลอจิสติกส์เข้าไปไม่ได้เราไม่อยากให้เกิดการช็อต เพราะเมื่อช็อตแล้วราคาก็จะแพงด้วย โดยเฉพาะเส้นทางสายอีสานและเหนือซึ่งปกติรถจะวิ่งไปยังเลี่ยงไปยังเส้นนครนายกแต่ขณะนี้ก็เริ่มมีปัญหาแล้ว
ขณะเดียวกัน หากการปล่อยน้ำไปยังภาคตะวันออกกรุงเทพเส้นทางที่จะไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จะถูกปิดอีกจึงต้องการให้รัฐดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนซ้ำเติมอีก” นายธนิต กล่าว
สำหรับสินค้าในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เราพบว่ามีสต๊อกสินค้าเพียง 1 เดือนและหลายแห่งเมื่อโรงงานชิ้นส่วนถูกน้ำท่วมก็ไม่สามารถจะผลิตได้จะส่งผลให้กระทบต่อภาวะการส่งออกไทย และรวมไปถึงกระทบกระเทือนต่อการผลิตในระดับภูมิภาคเนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ชิ้นสว่นยายยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ แน่นอนว่าหากมีปัยหาไม่สามารถผลิตเพื่อการส่งออกมากไม่เพียงแต่จะกระทบเศรษฐกิจไทยแล้วยังจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขด่วนไม่ใช่รอให้น้ำลดจึงมาหาวิธีแก้ไขซึ่งอาจจะช้าไป
นอกจากนี้ ยังพบว่า ล่าสุด สินค้าที่จำเป็นของประชาชนโดยเฉพาะเรือที่เป็นพาหนะสำคัญยามน้ำท่วมก็เริ่มขาดแคลนหายากมากขึ้นจึงต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวเพราะกระทบต่อประชาชนโดยตรงในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำที่ไหลบ่าทะลักเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งให้ราคาอาหาร และผักสดในตลาดเขตกรุงเทพฯ และชาญเมือง โดยเฉพาะตลาดยิ่งเจริญ ย่านสะพานใหม่ ตลาดสี่มุมเมือง ย่านรังสิต ราคาขยับขึ้นกว่าเท่าตัว โดยราคาผักกวางตุ้งขึ้นจาก กก.15-17 บาท เป็น 28-30 บาท ผักกาดขาว 20-22 บาท เป็น 45 บาท กะหล่ำปลี 15-18 บาท เป็น 30-35 บาท ถั่วฝักยาวจาก 20-25 บาท เป็น 55-70 บาท ผักคะน้ำจาก 25-28 บาท เป็น 50 บาท มะเขือเทศจาก 20 บาท เป็น 40 บาท รวมถึงไข่ไก่เบอร์ 5 ที่ปรับขึ้นมากจากแผง 30 ฟอง ราคา 80-90 บาท เป็น 115-120 บาท ส่วนเนื้อหมู ไก่ ราคายังปกติ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามสาเหตุที่สินค้าราคาแพง เนื่องจากพื้นที่ปลูกผักส่วนใหญ่ใน จ.นครปฐม และเขตตลิ่งชัน ถูกน้ำท่วมเสียหายจำนวนมาก ประกอบกับการขนส่งทำได้ลำบาก เพราะหลายเส้นทางถูกตัดขาดจากกระแสน้ำ โดยเฉพาะตลาดไท แหล่งกระจายสินค้าขนาดใหญ่ที่กำลังถูกน้ำท่วมโดยรอบ
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า บรรยากาศการจัดงานธงฟ้าสู้ภัยน้ำท่วม ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ นนทบุรี เมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) มีประชาชนเดินทางมาเข้าคิวแห่ซื้อสินค้ากันอย่างเนื่องแน่นตั้งแต่เช้า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะสินค้าไข่ไก่ ข้าวถุง น้ำมันพืช เนื้อหมู รองเท้าบูธ น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งมีราคาถูกว่าท้องตลาด 20-40% มีชาวบ้านต่อคิวเข้าแถวซื้อมากกว่า 100-200 คน ส่งผลให้สินค้าหมดลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันว่า ในวันนี้ จนถึงวันที่ 21 ต.ค.จะเพิ่มปริมาณสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน ขณะนี้เริ่มหาซื้อสินค้าอุปโภคยากขึ้น โดยเฉพาะนมข้นหวาน และผลิตภัณฑ์นม ในตลาดย่านนนทบุรีขาดตลาดอย่างหนัก เนื่องจากโรงงานผลิตส่วนใหญ่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมในจ.พระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานกระจายสินค้าเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ห้างโมเดิร์นเทรด 5 แห่ง ได้แก่ เซเว่น อีเลฟเว่น แมคโคร ท๊อป ซุปเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี และ เทสโก้ โลตัส ได้ขอความช่วยเหลือมายังศูนย์ฯ ให้ประสานหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ในการเปิดพื้นที่บริเวณสนามบินดอนเมืองให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าชั่วคราวของห้างทั้ง 5 แห่ง
นอกจากนี้ ได้ประสานกองทัพเพื่อจัดหารถบรรทุกทหาร (ยีเอ็มซี) เข้าไปขนสินค้าจากศูนย์กระจายสินค้าของห้างแต่ละแห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม มาพักไว้ที่ดอนเมืองก่อนเพื่อไม่ให้สินค้าขาดตลาด
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเข้าพบและหารือกับนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เพื่อขอบคุณรัฐบาลจีนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในไทย และเจรจาเพิ่มการค้าการลงทุนสองฝ่าย รวมถึงขจัดอุปสรรคทางการค้าสองฝ่าย
***ส.อ.ท.เตือน “พาณิชย์” รับมือสินค้าขาดแคลน
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่รัฐบาลยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมถึงภาวะการขาดแคลนสินค้าโดยเฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภค และรวมไปถึงการขาดแคลนวัตถุดิบในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมเนื่องจากโรงงานถูกน้ำท่วมจำนวนมากซึ่งท้ายที่สุดจะกระทบให้การผลิตสินค้าลดต่ำลงและจะกระทบส่งออกในวงกว้าง ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จะต้องลงมาตรวจเช็กเพื่อที่จะออกมาตรการในการดูแลอย่างทันท่วงทีก่อนที่ปัญหาการขาดแคลนจะรุนแรง
“เวลานี้เราต้องยอมรับว่าสินค้าอุปโภค บริโภคเริ่มมีปัญหาบางพื้นที่เพราะระบบการขนส่งหรือลอจิสติกส์เข้าไปไม่ได้เราไม่อยากให้เกิดการช็อต เพราะเมื่อช็อตแล้วราคาก็จะแพงด้วย โดยเฉพาะเส้นทางสายอีสานและเหนือซึ่งปกติรถจะวิ่งไปยังเลี่ยงไปยังเส้นนครนายกแต่ขณะนี้ก็เริ่มมีปัญหาแล้ว
ขณะเดียวกัน หากการปล่อยน้ำไปยังภาคตะวันออกกรุงเทพเส้นทางที่จะไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จะถูกปิดอีกจึงต้องการให้รัฐดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนซ้ำเติมอีก” นายธนิต กล่าว
สำหรับสินค้าในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เราพบว่ามีสต๊อกสินค้าเพียง 1 เดือนและหลายแห่งเมื่อโรงงานชิ้นส่วนถูกน้ำท่วมก็ไม่สามารถจะผลิตได้จะส่งผลให้กระทบต่อภาวะการส่งออกไทย และรวมไปถึงกระทบกระเทือนต่อการผลิตในระดับภูมิภาคเนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ชิ้นสว่นยายยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ แน่นอนว่าหากมีปัยหาไม่สามารถผลิตเพื่อการส่งออกมากไม่เพียงแต่จะกระทบเศรษฐกิจไทยแล้วยังจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขด่วนไม่ใช่รอให้น้ำลดจึงมาหาวิธีแก้ไขซึ่งอาจจะช้าไป
นอกจากนี้ ยังพบว่า ล่าสุด สินค้าที่จำเป็นของประชาชนโดยเฉพาะเรือที่เป็นพาหนะสำคัญยามน้ำท่วมก็เริ่มขาดแคลนหายากมากขึ้นจึงต้องการให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวเพราะกระทบต่อประชาชนโดยตรงในขณะนี้
