ผู้บริหาร “โทลล์เวย์” ยันไม่ห้ามรถจอดบนทางด่วนหนีน้ำท่วม แต่ขอให้มีการจัดระเบียบชิดซ้าย แนะรัฐส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ-จัดช่องทางใหม่ เพราะอาจเกิดอันตราย และกระทบปัญหาการจราจรเป็นอัมพาต พร้อมวอนให้เห็นแก่ส่วนรวม ย้ำต้องใช้เป็นช่องทางเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่อจากเส้นทางด้านล่างไม่สามารถใช้ได้แล้ว ด้าน กทพ.ประกาศ ลานจอดรถใต้ทางพิเศษ 9 แห่ง ยังมีที่ว่างเพียบ
นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าของรถยนต์จำนวนกว่า 100 คันนำรถยนต์ขึ้นไปจอดบนทางด่วนเพื่อหนีน้ำท่วม โดยระบุว่าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ เพราะทางยกระดับไม่ใช่ที่จอดรถ แต่การจะไปยกรถลงมาคงเป็นเรื่องลำบาก เพราะด้านล่างบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม
“หากว่ากันตามกฎหมายแล้ว คงไม่อนุญาตให้นำขึ้นมาจอด แต่เราเป็นคนไทยต้องช่วยเหลือกัน ดังนั้น การเข้ามาจอดคงต้องจัดระเบียบเพื่อไม่ให้การจราจรเป็นอัมพาต แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดประสานเข้ามา แต่พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะไม่ใช่สถานการณ์ปกติ”
นายธานินทร์กล่าวเสริมว่า บนทางด่วนรถวิ่งค่อนข้างเร็ว ถ้ามีการจอดรถจะเกิดอันตรายโดยเฉพาะทางขึ้นทางลง อาจมองไม่เห็นชนกันมีอุบัติเหตุใหญ่ตามมา อีกเรื่องคือการลำเลียงการลำเลียงผู้ป่วยและอาหารถ้ากรณีน้ำท่วมถนนด้านล่าง การช่วยเหลือก็ไม่มีทางจะวิ่ง จึงขอความร่วมมือเพื่อความปลอดภัย ตนยังเห็นใจ ถ้าจะจอดกันจริงๆ ก็คงต้องขอให้จอดซ้ายสุดต้องขอความร่วมมือตรงนี้
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าประชาชนจำนวนมากได้นำรถไปจอดหนีน้ำท่วมตามสถานที่สาธารณะที่เป็นพื้นที่สูง เช่น ทางด่วน ทางยกระดับ และสะพาน ทำให้กีดขวางการจราจร และปิดกั้นเส้นทางช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เพราะบางแห่งมีการจอดซ้อนคัน แถมยังเอาผ้าคลุมรถเอาไว้ด้วย
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการจราจร ระบุว่า หากเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. ทางตำรวจจะไม่อนุญาตให้นำรถไปจอดบนทางด่วน หรือโทลล์เวย์อย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะมีผลกระทบการจราจรเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังมีการขนส่งสิ่งของออกไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน หากนำรถไปจอดขวางจะยิ่งเพิ่มปัญหา หากตำรวจพบเห็นจะยกออกจากพื้นที่ทันทีและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ระบุว่า ยังมีที่จอดรถใต้ทางพิเศษจำนวน 9 แห่งที่ กทพ.จัดไว้รองรับผู้ประสบอุทกภัยยังสามารถรองรับปริมาณรถได้อีก โดยสามารถจอดได้ทั้งหมดรวม 2,900 คัน จึงขอเชิญชวนผู้ประสบอุทกภัยนำรถมาจอดในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้บนทางพิเศษทุกสายทางห้ามจอดรถเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการเครื่องย้ายลงจากทางพิเศษทันที
ตามที่ กทพ.ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยจัดพื้นที่ใต้ทางพิเศษชั่วคราวจำรวน 9 แห่ง ดังนี้
1. ใต้ทางด่วนด่านฯ งามวงศ์วาน จำนวน 200 คัน
2. ใต้ทางด่วนด่านฯ รัชดาภิเษก จำนวน 100 คัน
3. ลานกีฬาใต้ทางด่วนหลังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จำนวน 200 คัน
4. ที่จอดรถใต้ทางด่วนด่านฯ อโศก 1 จำนวน 300 คัน
5. ใต้ต่างระดับวัชรพล ถนนรามอินทรา (ฝั่งเหนือ) จำนวน 200 คัน
6. ใต้ทางด่วนรามอินทรา ตั้งแต่จุดกลับรถ จำนวน 1,000 คัน ติดถนนรามอินทราถึงแนวคลอง
7. ใต้ทางด่วนด่านฯ พระราม 9-1 จำนวน 500 คัน (ศูนย์ฝึกกู้ภัย ศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช)
8. ใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ จำนวน 100 คัน
9. ใต้สะพานพระราม 9 ฝั่งธนบุรี จำนวน 300 คัน
โดยสามารถรองรับรถยนต์ได้จำนวน 2,900 คัน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน พื้นที่จอดรถดังกล่าวยังสามารถรองรับปริมาณรถยนต์ได้อีกจำนวนมาก ดังนั้น กทพ.จึงขอเชิญชวนผู้ประสบอุทกภัยนำรถมาจอดในบริเวณดังกล่าว โดย กทพ.ได้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลรถยนต์ที่จอด ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ผู้นำรถยนต์มาจอดจะต้องเขียนชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อ ติดไว้ที่กระจกรถ เพื่อสามารถติดต่อเจ้าของรถได้ในกรณีฉุนเฉิน โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของ กทพ. โทร. 1543 (EXAT Call Center) ตลอด 24 ชั่วโมง
