พื้นที่เกษตร 8.8 ล้านไร่ จมน้ำ ลูกหนี้ ธ.ก.ส.อ่วม 3.9 แสนราย มูลหนี้ 3.4 หมื่นล้าน เล็งยืดหนี้ ยกเว้น ดบ.พร้อมอัดฉีดเงินฟื้นฟู ด้าน “ทางหลวง-ทางชนบท” เสียหาย 760 เส้นทาง เกือบ 1 หมื่นล้าน พร้อมแจงสาเหตุซ่อมได้ช้า เพราะการจราจรติดขัด แนะ ปชช.งดเดินทางหากไม่มีธุระเร่งด่วน
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ทางด้านการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนประมาณ 8.8 ล้านไร่จำแนกเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 7.3 ล้านไร่ พืชไร่และพืชอื่นๆ 1.4 ล้านไร่ ประมง 140,000 ไร่ และปศุสัตว์ 392,811 ตัว และสัตว์ปีก 9.6 ล้านตัว และจากการสำรวจของ ธ.ก.ส.ในเบื้องต้น มีเกษตรกรลูกค้าได้รับความเดือดร้อนจำนวน 315,185 ครัวเรือน มีต้นเงินคงเป็นหนี้ 34,425 ล้านบาท
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือ ธ.ก.ส.ได้จัดถุงยังชีพเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 140,367 ครัวเรือน รวมมูลค่า 56.6 ล้านบาท ส่วนความช่วยเหลือด้านหนี้สินจะขยายเวลาการชำระหนี้และงดคิดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี และให้เงินกู้ใหม่เพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิตรายละไม่เกิน 100,000 บาท โดยลดอัตราดอกเบี้ยจากอัตราปกติ 3% และลดหย่อนหลักประกันการกู้เงิน
โดยมาตรการในส่วนนี้ ธ.ก.ส.จะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ส่วนกรณีเกษตรกรลูกค้าที่เสียชีวิตจะตัดจำหน่ายเป็นหนี้สูญโดย ธ.ก.ส.รับภาระเอง ซึ่งในขณะนี้มีลูกค้าเสียชีวิตจากภัยดังกล่าวจำนวน 23 ราย และ ธ.ก.ส.ได้จำหน่ายหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้สูญ เพื่อลดภาระให้กับครอบครัวเกษตรกรไปแล้ว 1.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ภายหลังน้ำลด ธ.ก.ส.จะประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา, บริษัท ไทยธุรกิจเกษตร จำกัด (TABCO) และบริษัทเอกชนที่เป็นเครือข่าย จัดทำโครงการคาราวานซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลการเกษตร อุปกรณ์ไฟฟ้า และโรงเรือนการเกษตรให้ฟรี โดยไม่คิดค่าซ่อมและบริการ ส่วนด้านอะไหล่จะลดพิเศษในราคาต้นทุน รวมถึงจัดหาเมล็ดพันธุ์แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยนำไปใช้ในการฟื้นฟูการผลิตต่อไป
ด้าน นายวันชัย ภาคลักษณ์ รักษาการอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 59 สายทาง ในพื้นที่ 15 จังหวัด ส่วนปัญหาการจราจรติดขัดจากน้ำท่วมนั้น กรมฯ พยายามที่จะซ่อมถนนให้การจราจรผ่านได้มากที่สุด แต่ปัญหาคือ การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า เพราะถนนบางช่องจราจรถูกน้ำท่วม
ดังนั้น กรมฯ ต้องขอร้องให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อย่าแซง เพราะจะทำให้การจราจรติดล็อก ที่สำคัญคือ หากไม่มีธุระสำคัญประชาชนควรงดเดินทาง โดยความเสียหายมีประมาณ 3,000 ล้านบาท
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รักษาการอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทได้สรุปความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม พบว่า มีถนนทางหลวงชนบทความเสียหายกว่า 702 สายทาง รวมกว่า 5,190.769 ล้านบาท เป็นถนนที่รถยังสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ 540 สายทาง และเป็นถนนทางหลวงชนบทที่รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้กว่า 162 สายทาง