ตั้งวอร์รูม “พลังงาน” รับสถานการณ์ฉุกเฉิน ยันน้ำมันไม่ขาด-เขื่อนแข็งแรง

“พลังงาน” ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ดูแลด้านพลังงานอย่างใกล้ชิด สั่งทุกจุดสำรองน้ำมันฉุกเฉิน ดูแลโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซ โรงปิโตรเคมี เพื่อไม่ให้เสียหาย ยันน้ำมันไม่ขาดแคลน กฟผ.แจงเหตุต้องระบายน้ำออกจากเขื่อน เพื่อรับมือพายุอีก 2-3 ลูก ยันเขื่อนทุกแห่งยังแข็งแรง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเรียกประชุมด่วนหน่วยงานในสังกัด บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยระบุว่า กระทรวงพลังงานจะจัดตั้งศูนย์บัญชาการ (วอร์รูม) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานจะมีการประชุมเพื่อรายงานสถานการณ์ด้านพลังงานทุกวัน โดยเฉพาะปริมาณน้ำในแต่ละเขื่อน และการขนส่งพลังงาน เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะไม่ขาดแคลนพลังงาน และมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ รวมทั้งสั่งการให้พลังงานจังหวัดทำงาน 24 ชั่วโมง ไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานในทุกพื้นที่

“ยังไม่ได้รับรายงานผลกระทบน้ำท่วมที่มีต่อโรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ และโรงปิโตรเคมี โดยได้ร่วมมือกับจังหวัดตรวจสอบตลอดเวลา”

โดยในส่วนของ ปตท.ได้สนองแนวพระราชดำริ สมเด็จพระบรมโอสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ให้เร่งช่วยเหลือผู้เดือดร้อน โดยได้จัดทำถังน้ำมันเบนซิน ดีเซลขนาดเล็ก 15 ลิตร พร้อมนำน้ำมันเครื่องจำนวน 30,000 ชุด จะเริ่มแจกจ่ายให้ผู้ที่ร้องมายังศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมของรัฐบาล เริ่มวันที่ 12 ตุลาคม 2554 นี้ เพื่อนำไปใช้เติมเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สำหรับสถานีบริการน้ำมัน ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีสถานีบริการน้ำมันปิดจากกรณีน้ำท่วมรวม 18 แห่ง ในขณะที่ ปตท.มีการสั่งให้สำรองน้ำมันและแอลพีจีในภาคเหนือ ภาคอีสานให้มีปริมาณสูงสุด โดยยอมรับว่า การขนส่งขณะนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ไม่สามารถขนส่งทางรถไฟไปภาคเหนือได้ ในขณะที่เส้นทางสายเอเชีย บริเวณบางปะหันขนส่งไม่ได้ เพราะเกิดน้ำท่วม ทาง ปตท.จึงได้เลี่ยงไปขนส่งเส้นทางอื่นแทน โดยยืนยันว่า พลังงานจะไม่ขาดแคลนแน่นอน

สำหรับในส่วนของ กฟผ.ยืนยันว่า เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ แม้จะมีปริมาณน้ำมาก จนต้องปล่อยน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น (สปิลเวย์) ในเขื่อนภูมิพลและอุบลรัตน์ แต่เขื่อนก็มีความมั่นคง ไม่เกิดปัญหาเขื่อนแตกอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมั่นใจ

“เราจำเป็นต้องปล่อยน้ำออก เพื่อรองรับน้ำรอบใหม่ที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า จะมีพายุอีก 3-4 ลูกเข้าใหม่ จึงสั่งการให้ กฟผ.เตรียมแผนรองรับกรณีเลวร้ายว่าจะดำเนินการอย่างไร โดย กฟผ.ระบุว่า การระบายน้ำในเขื่อนขณะนี้ มีการระบายในปริมาณที่น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อน เพื่อชะลอไม่ให้ประชาชาชนเดือดร้อนมากกว่าปัจจุบัน”