บอร์ดอสมท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติงานของ กก.ผอ.ญ. นายธนวัฒน์ วันสม หลังพบข้อสงสัย 1 ปีที่ผ่านมา มีการทำงานล่าช้า บกพร่องบริหารบุคคล ส่อเคล้าไม่โปร่งใสกับงบซีเอสอาร์ 100 ล้านบาท หวั่นสร้างความแตกแยกในองค์กร
วานนี้ (28 ก.ย.) ทางคณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมในวาระพิเศษขึ้น หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นเรื่องจากปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา จากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อสมท
โดยนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้พบข้อสงสัยหลายๆเรื่อง เช่น ในโครงสร้างการทำงานบางสายงานนั้น พบว่าไม่มีผู้บริหารระดับผู้ช่วยฝ่าย รวมถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารตามโครงสร้างใหม่อีกส่วนหนึ่งว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น โดยบอร์ด ได้มีมติ ให้คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง พิจารณาข้อเสนอดังกล่าว เพื่อนำกลับมาเสนอในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป วันที่ 20 ต.ค.นี้
ที่สำคัญ ยังพบข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คือ นายธนวัฒน์ วันสม ในหลายๆประเด็นด้วยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการทำงานที่ล่าช้า หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่บอร์ดมอบหมายภารกิจหรือไม่ รวมทั้งมีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องในการบริหารงานบุคคล จนก่อให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กรหรือไม่ ที่สำคัญยังมีประเด็นในเรื่องอื่นๆด้วย เช่น ในเรื่องของ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG) ที่ได้ขอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจ้งการใช้งบประมาณด้านซีเอสอาร์ ของหน่วยงานต่างๆ ผ่านสื่อ อสมท ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทต่อปี แต่ไม่ได้รับการชี้แจ้งจาก กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นต้น
จากข้อสงสัยทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทางที่ประชุมบอร์ด อสมท จึงมีมติออกมาให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนายการใหญ่ ของ นายธนวัฒน์ วันสม โดยมีนายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ เป็นประธาน และนายนัที เปรมรัศมี และนายธีรภัทร สงวนกชกร เป็นคณะทำงาน กำหนดกรอบการทำงาน 15 วันนับจากวันที่ 28 ก.ย. 2554นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ระยะเวลาการสอบสวน 15 วันนี้ หากพบว่ากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไม่มีความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างต่อไป แต่หากพบว่ามีความผิด จะต้องไปดูรายละเอียดว่าผิดในสัญญาข้อใด ซึ่งจะบทลงโทษกำกับไว้ในสัญญาชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะทำงานตรวจสอบสัญญาฯ ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทางที่ประชุมบอร์ด อสมท ยังมีมติสั่งห้ามกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานทุกระดับ มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในกรณีเร่งด่วนที่ต้องมีการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งสำคัญ ที่ส่งผลต่อการทำงานขององค์กร โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ว่างลง จากบุคลากรเกษียณอายุการทำงาน ให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่เสนอมายังบอร์ด อสมท ซึ่งจะทำหน้าที่ในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวเอง นอกจากนี้ยังมีมติให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปดำเนินขั้นตอนการแต่งตั้งบุคลากร ที่บอร์ด อสมทได้มีมติ แต่งตั้งไปในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ด้วย
“ประเด็นสำคัญที่ทำให้บอร์ดมีมติ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสัญญา เกิดจากข้อสงสัยในประเด็นที่มอบหมายให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่ชี้แจ้งการปรับโครงสร้างองค์กรให้กับพนักงานได้รับทราบเป็นระยะ พร้อมให้สะท้อนความคิดเห็นจากพนักงานมายังบอร์ด แต่เหตุการณ์ที่พนักงานได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนการทำงาน ของคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากบอร์ดได้มารับฟังความคิดเห็นจากสหภาพ อสมท วานนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ทำหน้าที่ตามที่บอร์ดมอบหมายหรือไม่” นายสุรพล กล่าวทิ้งท้าย
วานนี้ (28 ก.ย.) ทางคณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมในวาระพิเศษขึ้น หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นเรื่องจากปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา จากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อสมท
โดยนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ได้พบข้อสงสัยหลายๆเรื่อง เช่น ในโครงสร้างการทำงานบางสายงานนั้น พบว่าไม่มีผู้บริหารระดับผู้ช่วยฝ่าย รวมถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารตามโครงสร้างใหม่อีกส่วนหนึ่งว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น โดยบอร์ด ได้มีมติ ให้คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง พิจารณาข้อเสนอดังกล่าว เพื่อนำกลับมาเสนอในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป วันที่ 20 ต.ค.นี้
ที่สำคัญ ยังพบข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คือ นายธนวัฒน์ วันสม ในหลายๆประเด็นด้วยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการทำงานที่ล่าช้า หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่บอร์ดมอบหมายภารกิจหรือไม่ รวมทั้งมีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องในการบริหารงานบุคคล จนก่อให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กรหรือไม่ ที่สำคัญยังมีประเด็นในเรื่องอื่นๆด้วย เช่น ในเรื่องของ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG) ที่ได้ขอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจ้งการใช้งบประมาณด้านซีเอสอาร์ ของหน่วยงานต่างๆ ผ่านสื่อ อสมท ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทต่อปี แต่ไม่ได้รับการชี้แจ้งจาก กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นต้น
จากข้อสงสัยทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทางที่ประชุมบอร์ด อสมท จึงมีมติออกมาให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้อำนายการใหญ่ ของ นายธนวัฒน์ วันสม โดยมีนายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ เป็นประธาน และนายนัที เปรมรัศมี และนายธีรภัทร สงวนกชกร เป็นคณะทำงาน กำหนดกรอบการทำงาน 15 วันนับจากวันที่ 28 ก.ย. 2554นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ระยะเวลาการสอบสวน 15 วันนี้ หากพบว่ากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไม่มีความผิดในการปฏิบัติหน้าที่ ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างต่อไป แต่หากพบว่ามีความผิด จะต้องไปดูรายละเอียดว่าผิดในสัญญาข้อใด ซึ่งจะบทลงโทษกำกับไว้ในสัญญาชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คณะทำงานตรวจสอบสัญญาฯ ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ทางที่ประชุมบอร์ด อสมท ยังมีมติสั่งห้ามกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายพนักงานทุกระดับ มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในกรณีเร่งด่วนที่ต้องมีการแต่งตั้งโยกย้ายในตำแหน่งสำคัญ ที่ส่งผลต่อการทำงานขององค์กร โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ว่างลง จากบุคลากรเกษียณอายุการทำงาน ให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่เสนอมายังบอร์ด อสมท ซึ่งจะทำหน้าที่ในการพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวเอง นอกจากนี้ยังมีมติให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปดำเนินขั้นตอนการแต่งตั้งบุคลากร ที่บอร์ด อสมทได้มีมติ แต่งตั้งไปในการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ด้วย
“ประเด็นสำคัญที่ทำให้บอร์ดมีมติ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสัญญา เกิดจากข้อสงสัยในประเด็นที่มอบหมายให้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่ชี้แจ้งการปรับโครงสร้างองค์กรให้กับพนักงานได้รับทราบเป็นระยะ พร้อมให้สะท้อนความคิดเห็นจากพนักงานมายังบอร์ด แต่เหตุการณ์ที่พนักงานได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนการทำงาน ของคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากบอร์ดได้มารับฟังความคิดเห็นจากสหภาพ อสมท วานนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ทำหน้าที่ตามที่บอร์ดมอบหมายหรือไม่” นายสุรพล กล่าวทิ้งท้าย
