xs
xsm
sm
md
lg

ท้า“เพื่อไทย”เปิดสัญญาช่อง 3 ปชป.ปัดมีเอี่ยว“บอร์ดอสมท”เร่งถอด2 รมต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความขัดแย้งใน อสมท. ว่า คงปล่อยให้ผู้รับผิดชอบได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายและยืนยันว่าทั้งบอร์ดและผู้บริหาร อสทม. ไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์ เพียงแต่ได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
ส่วนการที่นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ที่พยายามยกกรณีการต่ออายุสัญญาสัมปทานของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในรัฐบาลที่ผ่านมาว่ามีหลักฐาน และพร้อมที่จะแสดงออกมานั้น ตนเห็นว่าก็เป็นสิทธิ์ที่นายพิชิตจะดำเนินการได้ เพราะรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ก็สามารถเอาผิดได้ หากเห็นว่าเกิดความไม่ชอบมาพากล พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมให้ตรวจสอบ แต่เชื่อมั่นว่าทุกอย่างได้ทำถูกขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ
ส่วนข้อกล่าวหาที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นถอดถอน 2 รัฐมนตรีว่ามีวาระซ้อนเร้นทางการเมืองนั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีการกระทำความผิดตามมาตรา48 ,266 และ 268 จริง พรรคประชาธิปัตย์จึงดำเนินการตามมารา 270 และถ้าหากว่า รัฐมนตรีทั้ง 2 คนมีความผิดตามมาตรา 270 จริง พรรคก็จะดำเนินการเอาผิดตามคดีอาญาตามมาตรา 157 ด้วย ดังนั้นการที่ นายพิชิต ออกมาข่มขู่ว่าคนที่ยื่นถอดถอนรัฐมนตรีทั้ง 2คนระวังจะกลายเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ฟ้องกับได้นั้น ตนอยากชี้แจงว่า การยื่นถอดถอน 2 รัฐมนตรี เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน จะเป็นการแจ้งความเท็จได้อย่างไร อยากให้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยกลับไปดูข้อกฎหมายให้รอบครอบก่อนที่จะยกข้อกฎหมายมาปิดปากผู้อื่น ไม่ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อพวกพ้องของตัวเอง
ส่วนความคืบหน้าของการยื่นถอดถอนนั้น อาจจะมีการเลื่อนออกไปจากสัปดาห์นี้ เนื่องจากสภาฯงดประชุม จึงไม่มีการประชุมส.ส.ของพรรค ไม่สามารถให้ส.ส.ของพรรคลงชื่อได้ครบ 1 ใน 4 หรือ 125 คนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้ แต่ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วรอเพียงรายชื่อส.ส.ของพรรคให้ครบเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้น นายพิชิต ชื่นบาน ระบุถึงการต่อสัญญาของช่อง 3 โดยอ้างว่า บอร์ด อสมท และฝ่ายการเมืองขณะนั้น ก็มีความเห็นขัดแย้งกัน โดยฝ่ายการเมืองเห็นว่าการต่อสัญญาจะต้องเข้า พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ ขณะที่ฝ่ายบอร์ด อสมท นำโดยนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการ บมจ.อสมท (บอร์ด อสมท) เห็นว่า เมื่อครบกำหนดก็ให้ต่อสัญญาได้เลย ทำให้ยังเป็นปัญหาค้างคามาจนถึงวันนี้
โดย พรรคเพื่อไทย เห็นว่าเรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง ยัดเยียด กล่าวหา น.ส.กฤษณาและนายธีระชัยแทรกแซง อสมท อย่างมีพิรุธ ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเข้าไปตรวจสอบสัญญาช่อง 3 ว่าบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ทำสัญญากับช่อง 3 นั้น ได้ให้ประโยชน์อะไรกับช่อง 3 บ้าง และจะตรวจสอบด้วยว่านายสุรพลรักษาผลประโยชน์ของช่อง 3 อย่างดีพอหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบบริษัท บีอีซี เวิลด์ไม่ได้ดูแลช่อง 3 เลย
กำลังโหลดความคิดเห็น