ปธ.บอร์ด “ทีจี” เผยที่ประชุมฯ ไฟเขียวตั้งสายการบินใหม่ “ไทยสมาย” เริ่มบิน ก.ค.55 ยันไม่ได้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่เป็นสายการบินราคาประหยัด เล็งเปิดให้บริการเส้นทางบินในประเทศ และเส้นทางบินภูมิภาค พร้อมเปิดทางกลุ่ม “พาที” ซื้อหุ้นนกแอร์ 25% มูลค่า 412.5 ล้านบาท จากผู้ถือหุ้น 3 ราย ในราคาหุ้นละ 33 บาท
นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติอนุมัติให้จัดตั้งสายการบิน THAI SMILE (ไทยสมาย) ที่เน้นเส้นทางบินในประเทศและภูมิภาค ซึ่งจะเริ่มให้บริการได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2555 โดยสายการบินดังกล่าวจะดำเนินการในรูปของหน่วยธุรกิจภายใต้การบินไทย ทั้งนี้ สายการบิน “ไทยสมาย” ไม่ได้เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ แต่เป็นสายการบินราคาประหยัดที่จะให้บริการเส้นทางบินในประเทศ และเส้นทางบินภูมิภาค
สำหรับแผนธุรกิจและแผนการลงทุนของหน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัด มีโครงสร้างการบริหารจัดการเป็นหน่วยธุรกิจที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการบินไทย โดยไม่ได้แยกไปจัดตั้งบริษัทใหม่และไม่ใช่สายการบินใหม่ แต่ยังคงใช้ Airline code เป็น TG เช่นเดียวกับทุกเที่ยวบินของการบินไทย แต่หน่วยธุรกิจใหม่จะมีการบริหารงานและคณะกรรมการบริหารที่แยกออกเป็นอีกส่วนหนึ่ง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน
สายการบิน ไทย สมาย จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็น Light Premium ซึ่งไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันกับสายการบินต้นทุนต่ำ แต่จะเป็น Sub-brand ของการบินไทยที่ต้องการสร้างความแตกต่างเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีภาพลักษณ์ที่มีความทันสมัยเน้นความรวดเร็วของการให้บริการ และมีระดับราคาและการบริการที่เหมาะสมกับเส้นทางบิน โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น บริการอาหารเครื่องดื่ม การเลือกที่นั่ง น้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ รวมทั้งการสะสมไมล์ เช่นเดียวกับทุกเที่ยวบินของการบินไทย ในราคาที่คุ้มค่า
นอกจากนี้ ไทย สมาย จะทำการบินออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ความจุ 174 ที่นั่ง ซึ่งเหมาะสมกับตลาดเส้นทางบินรองเน้นระยะใกล้ 1-2 ชั่วโมง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เน้นความถี่ของเที่ยวบิน ตารางบินจะสอดคล้องแ ละรองรับการเชื่อมต่อกับเที่ยวบินหลักของการบินไทย เริ่มทำการบินในปี 2555 จากเส้นทางภายในประเทศ ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น เชียงราย และสุราษฎร์ธานี จากนั้นในปี 56 จะเริ่มทำการบินในตลาดต่างประเทศ เน้นตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย
ด้านบุคลากรจะเริ่มดำเนินการรับสมัคร และคัดเลือกพนักงานในปลายปี 2554 เปิดให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารภายในต้นปี 2555 และจะเริ่มทำการบินประมาณเดือนกรกฎาคม 2555 สำหรับชื่อผลิตภัณฑ์ "ไทย สมาย" มาจากการเชิญชวนพนักงานร่วมประกวดตั้งชื่อ จนสามารถสรุปได้รอบสุดท้าย 10 ชื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ คัดเลือก ภายใต้เกณฑ์การพิจารณาที่ต้องการสื่อภาพลักษณ์ภายใต้แนวคิด Trendy – Friendly –Worthy Travel
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงสร้างของหน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัดเพื่อให้การบริหารงานของหน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัดเป็นไปได้ด้วยความคล่องตัว และสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารธุรกิจการบินราคาประหยัด (Low-fare Executive Management: LEM) รายงานตรงกับคณะกรรมการบริหารบริษัทฯ และคณะกรรมการบริษัทฯ เช่นเดียวกับหน่วยธุรกิจอื่น
หน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัดจัดโครงสร้างองค์กร ในรูปแบบแนวราบและกระชับ (Flat & Lean) ประกอบด้วยกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัด ระดับผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยธุรกิจ และมีหน่วยงานหลัก ได้แก่ ส่วนงานปฏิบัติการ ส่วนงานบริหารการจัดจำหน่ายและรายได้ ส่วนงานสื่อสารการตลาดและบริการลูกค้า และฝ่ายบริหารงานทั่วไป ซึ่งคณะกรรมการฯมีมติโยกย้ายนายวรเนติ หล้าพระบาง ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายกลยุทธ์และแผน ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบินราคาประหยัด
พร้อมกันนั้น คณะกรรมการฯ ยังรับทราบกรณีที่ผู้ถือหุ้นสายการบินนกแอร์ จำนวน 3 ราย คือ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนเปิดไทยทวีทุน ซึ่งมีสัดส่วนถือหุ้นในสายการบินนกแอร์รวม 25% จะขายหุ้นให้กับ บริษัท นกแอร์ แมนเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งก่อตั้งโดยผู้บริหารนกแอร์ ในราคาหุ้นละ 33 บาท โดยคิดเป็นวงเงินรวม 412.5 ล้านบาท