บิ๊ก “พลังงาน” เตรียมเสนอ รมว.คนใหม่ สานต่อพัฒนาพื้นที่ปิโตรเลียม ไทย-เขมร เผย ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดี หลังพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แย้ม “ฮอร์ นัม ฮง” พร้อมเจรจาธุรกิจเพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ของชาติ
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลเรื่องการพัฒนาพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา เสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ เพื่อพัฒนาแหล่งสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีในการเจรจาหลังจากประเทศไทยเลือกตั้งเสร็จ และพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง โดย นายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ระบุล่าสุดว่า มีความพร้อมในการเจรจา
“วันนี้เราต้องเชื่อใจการบริหารประเทศของรัฐบาล โดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการหาแหล่งสำรองพลังงานในพื้นที่ร่วม โดยเป็นประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรทั้ง 2 ประเทศ โดยหากเริ่มเจรจาแล้วก็คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาพื้นที่นานถึง 8 ปีกว่าจะผลิตปิโตรเลียมขึ้นมาได้”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การเจรจาดังกล่าวได้มีการเจรจามาจนใกล้สำเร็จแล้ว โดยจะแบ่งพื้นที่ทับซื้อ 26,000 ตารางกิโลเมตรออกเป็น 3 พื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าปริมาณสำรองที่แท้จริงมีเท่าใด แม้ทางกัมพูชา จะคาดว่า มีประมาณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตก็ตาม แต่คาดว่า จะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพราะใกล้แหล่งเอราวัณ ของไทย โดยแนวทางการบริหารพื้นที่เพื่อแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกัน สามารถดำเนินการได้หลายรูปแบบ เช่น การแบ่งพื้นที่ฝ่ายละครึ่ง หรือ จัดตั้งบริษัทร่วมขึ้นมาบริหารเช่นเดียวกับพื้นที่ทับซ้อนไทย-มาเลเซีย เป็นต้น
นายทรงภพ กล่าวว่า หากการเจรจาประสบความสำเร็จ จะเป็นประโยชน์ของทั้งสองประเทศ โดยทางกัมพูชาจะได้รายได้ในการพัฒนาประเทศ ในขณะที่ประเทศไทยจะมีปริมาณสำรองก๊าซ เพื่อความมั่นคงไปได้อีก 30-50 ปี จากที่ในขณะนี้ปริมาณก๊าซในอ่าวไทย เริ่มหมดลง และไม่มีแหล่งขนาดใหญ่เข้ามา ซึ่งปริมาณสำรองในอ่าวไทยเหลืออยู่แค่ประมาณกว่า 10 ปีเท่านั้น ในขณะที่ประเทศไทยมีความต้องการก๊าซ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า เพื่ออุตสาหกรรมและใช้ในยานยนต์เป็นปริมาณมาก โดยล่าสุดประเทศไทยมีการใช้ก๊าซ 4,400 ล้านลูกบาศ์กต่อวัน โดยเป็นก๊าซจากอ่าวไทยประมาณ 3,400 ล้านลุกบาศก์ฟุตต่อวัน
