“บีโอไอ” เตรียมปรับแผนลงทุนใหม่ สอดรับแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 คาด ชง รมว.อุตฯ คนใหม่ ก.ย.นี้ เน้นจูงใจกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มที่ใช้เม็ดเงินลงทุนสูง และกลุ่มที่ใช้แรงงานจำนวนมาก
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า บีโอไอ อยู่ระหว่างทบทวนแผนส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา เป็นการเฉพาะ เพื่อให้ได้แนวทางส่งเสริมการลงทุนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ซึ่งคาดว่า จะแล้วเสร็จ และเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คนใหม่ได้ ภายในเดือนกันยายน 2554 นี้
“แผนใหม่อาจจะส่งผลกระทบให้กิจการบางประเภทต้องถูกยกเลิกการส่งเสริมการลงทุนไป จากที่ปัจจุบันบีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 243 กลุ่มประเภทกิจการ ซึ่งอาจส่งผลให้บางประเภทกิจการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีน้อยลง ส่วนอุตสาหกรรมที่ไทยยังต้องการให้มีการลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แข่งขันได้กับประเทศคู่แข่งอย่างเต็มที่”
สำหรับแนวทางการทบทวนแผนการส่งเสริมการลงทุนใช้หลักการว่าจะไม่ส่งเสริมโครงการลงทุนในกิจการที่มีการลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก หรือโครงการที่ใช้แรงงานมาก เพราะขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยจะเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ไทยยังต้องการ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมที่ไทยได้เปรียบอยู่แล้ว เนื่องจากมีวัตถุดิบภายในประเทศ ตลอดจน อุตสาหกรรมที่มีการลงทุนการการวิจัยและพัฒนา
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวด้วยว่า หลังการเลือกตั้ง บรรยากาศการลงทุนในประเทศไทยดีขึ้น ทำให้นักลงทุนรายใหม่คลายความกังวลปัญหาการเมืองลงไปได้ และสนใจที่จะเข้ามาลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะนักลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี จีน ขณะที่นักลงทุนไทยในกลุ่มเอสเอ็มอีก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพื่อขยายกิจการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกมีนักลงทุนขอรับการส่งเสริมการลงทุน 240,000 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 200,000 ล้านบาท เป็นการขยายตัวของกลุ่มเอสเอ็มอีถึง 8 เท่า บีโอไอจึงมั่นใจว่ายอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนตลอดปีนี้จะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 400,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งการขยายตัวของประเทศคู่ค้า อัตราค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง อัตราการเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูง รวมถึงนโยบายการปรับเพิ่มค่าแรง 300 บาทต่อวัน
นางอรรชกา ยังร่วมงานเปิดตัวโครงการประกวด RECO Young Designer Competition 2011 ที่เปิดให้นิสิต นักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษาหรือในสถาบันด้านการออกแบบ ใช้ความคิดสร้างสรรค์นำวัสดุเหลือใช้และวัสดุที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์ หรือ PET มาออกแบบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ให้เกิดประโยชน์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Friendly Product Design) ส่งประกวดผลงานที่ชนะการประกวดจะนำไปแสดงในงาน BOI Fair 2011 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-25 พฤศจิกายน 2554 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
