เล็งชงรัฐบาลใหม่วางยุทธศาสตร์สิ่งทอไทย ปี 2555-2559 หนุนดันไทยก้าวสู่ 1 ใน 3 เมืองหลวงด้านแฟชั่นของเอเชียเทียบญี่ปุ่น และเกาหลี ในปี 2559
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์บทบาทและยุทธศาสตร์สิ่งทอไทยในทศวรรษแห่งเอเชีย เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายให้ในปี 2559 สิ่งทอไทยจะมีส่วนแบ่งตลาดของสินค้าสิ่งทอเป็นอันดับ 1 ในตลาดอาเซียน และเป็น 1 ใน 3 ของเมืองหลวงด้านแฟชั่นในเอเชีย เทียบญี่ปุ่น และเกาหลี
“เราคงจะต้องทบทวนบทบาทระยะยาวไม่เช่นนั้นจะเสียตลาดได้ หลังจากนี้ สถาบันฯ จะเร่งรวบรวมข้อมูล และหารือร่วมกับเอกชนอีกครั้ง เพื่อสรุปยุทธศาสตร์ในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะเสนอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา โดยสถาบันฯ ต้องการให้เอกชนเป็นประธานผลักดันยุทธศาสตร์ เพราะมีความพร้อมเรื่องงบประมาณมากกว่ารัฐบาล ซึ่งขณะนี้มีแผนการใช้งบประมาณจำนวนมาก” นายอาทิตย์ กล่าว
นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ปี 2555-2559 มีแผนการดำเนินงานดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเครื่องนุ่งห่ม เพื่อพัฒนาการทำเสื้อผ้าตัวอย่างส่งให้ลูกค้าดู ซึ่งแต่เดิมไทยไม่เคยมี การพัฒนาในด้านนี้ ทำให้การส่งสินค้าตัวอย่างไปให้ลูกค้าดูมีความล่าช้า ขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลี ส่งได้ทันที 2.ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนต่างประเทศ สร้างเมืองพี่เมืองน้องกับประเทศเพื่อบ้าน และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือด้านสิ่งทอ
3.ยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จัดตั้งศูนย์กลางการค้าอาเซียในเมืองไทย บ่มเพาะผู้สร้างแบรด์ และการทำแบรนด์ที่ชัดเจน 4.ยุทธศาสตร์การสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ 5.ยุทธศาสตร์การยกระดับทุนมนุษย์เชิงบูรณาการ โดยบริหารจัดการคนให้รองรับกับอุตสาหกรรมที่จะขยายตัว 6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ทบทวนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เช่น การห้ามตั้ง ขยาย โรงงานฟอกย้อมใหม่ และยกระดับมาตรฐานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอาเซียน
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์บทบาทและยุทธศาสตร์สิ่งทอไทยในทศวรรษแห่งเอเชีย เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายให้ในปี 2559 สิ่งทอไทยจะมีส่วนแบ่งตลาดของสินค้าสิ่งทอเป็นอันดับ 1 ในตลาดอาเซียน และเป็น 1 ใน 3 ของเมืองหลวงด้านแฟชั่นในเอเชีย เทียบญี่ปุ่น และเกาหลี
“เราคงจะต้องทบทวนบทบาทระยะยาวไม่เช่นนั้นจะเสียตลาดได้ หลังจากนี้ สถาบันฯ จะเร่งรวบรวมข้อมูล และหารือร่วมกับเอกชนอีกครั้ง เพื่อสรุปยุทธศาสตร์ในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนจะเสนอให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา โดยสถาบันฯ ต้องการให้เอกชนเป็นประธานผลักดันยุทธศาสตร์ เพราะมีความพร้อมเรื่องงบประมาณมากกว่ารัฐบาล ซึ่งขณะนี้มีแผนการใช้งบประมาณจำนวนมาก” นายอาทิตย์ กล่าว
นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย ปี 2555-2559 มีแผนการดำเนินงานดังนี้ 1.ยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเครื่องนุ่งห่ม เพื่อพัฒนาการทำเสื้อผ้าตัวอย่างส่งให้ลูกค้าดู ซึ่งแต่เดิมไทยไม่เคยมี การพัฒนาในด้านนี้ ทำให้การส่งสินค้าตัวอย่างไปให้ลูกค้าดูมีความล่าช้า ขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลี ส่งได้ทันที 2.ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งผู้ประกอบการ ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนต่างประเทศ สร้างเมืองพี่เมืองน้องกับประเทศเพื่อบ้าน และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือด้านสิ่งทอ
3.ยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จัดตั้งศูนย์กลางการค้าอาเซียในเมืองไทย บ่มเพาะผู้สร้างแบรด์ และการทำแบรนด์ที่ชัดเจน 4.ยุทธศาสตร์การสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ 5.ยุทธศาสตร์การยกระดับทุนมนุษย์เชิงบูรณาการ โดยบริหารจัดการคนให้รองรับกับอุตสาหกรรมที่จะขยายตัว 6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ทบทวนกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค เช่น การห้ามตั้ง ขยาย โรงงานฟอกย้อมใหม่ และยกระดับมาตรฐานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอาเซียน
