ระยอง - รองอธิบดีกรมโรงงาน ประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหากลิ่นโรงงาน ไออาร์พีซี เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้านโรงงานแจงปัญหาเรื่องกลิ่นจะหมดไปในเร็วๆ นี้ หลังเตรียมเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิง จากน้ำมันเตาและหม้อไอน้ำ เป็นแก๊สธรรมชาติ
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ห้องประชุมสภาอุตสาหกรรม ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง นายศุภชัย ศิริวัฒนเจริญชัย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานไตรภาคีเพื่อแก้ไขปัญหากลิ่นโรงงานไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เนื่องจาก นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกนำชาวบ้าน ต.ตะพง ต.นาตาขวัญ และ ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นจากโรงงานไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มานาน เข้าร้องเรียนอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม หลังคณะทำงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบและเสนอให้นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผวจ.ระยองสั่งการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535
คำสั่งในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.ให้ไออาร์พีซีหยุดเดินเครื่องจักรเพื่อซ่อมบำรุงประจำปี หรือหยุดเดินเครื่องกรณีอื่นๆ ที่มีแผนล่วงหน้าให้แจ้งก่อนการหยุดเดินเครื่องจักรไม่น้อยกว่า 15 วัน 2.การหยุดเดินเครื่องจักรกรณีฉุกเฉินให้แจ้งภายใน 1 ชม.หลังจากหยุดเดินเครื่องจักรและต้องแจ้งรายละเอียดตามแบบแจ้งหยุดเดินเครื่องจักรภายใน 3 ชม.ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ต่อมา นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานไตรภาคี เพื่อแก้ไขปัญหากลิ่น จากการประกอบกิจการโรงงาน ในเขตประกอบการ ไออาร์พีซี เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นและปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน
ประกอบด้วย นายศุภชัย ศิริวัฒนเจริญชัย ประธานคณะทำงาน นายบัณฑิต ธงศรีเจริญ อุตสาหกรรม จ.ระยอง รองประธาน นายปรีชา รุ่งรัตน์ ผอ.สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน รองประธาน นายแพทย์สาธารณสุข จ.ระยอง คณะทำงาน
นอกจากนั้น ยังมี นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก คณะทำงาน นายมณฑล ทรรทุนานนท์ รักษาการ หน.ฝ่ายโรงงาน ทำหน้าที่เลขานุการ, ผู้แทนจากเทศบาลนครระยอง, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะพง อบต.บ้านแลง อบต.นาตาขวัญ คณะทำงาน, นายโพธิวัฒน์ เผ่าพงศ์ช่วง ผจก.ฝ่ายกิจการสังคม บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) คณะทำงาน ผู้แทนจากบริษัท อูเบะ เคมิคอล (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ฯลฯ และนายเศรษฐา ปิตุเตชะ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง เข้าร่วมรับฟัง
ด้าน นายมณฑล ทรรทุนานนท์ เลขานุการคณะทำงาน กล่าวชี้แจงว่า ที่ผ่านมาโรงงานไออาร์พีซี มีการหยุดฉุกเฉินตั้งแต่ 23 กุมภาพันธ์-31 มีนาคม รวมทั้งหมด 15 ครั้ง ในจำนวน 7 โรงงานในเขตประกอบการ สาเหตุเกิดจากการทำงานผิดปกติของเครื่องจักร ระบบการผลิตขัดข้อง รวม 6 ครั้ง ไฟฟ้าดับ 5 ครั้ง หยุดเดินเครื่องจักรมีแผนล่วงหน้า 4 ครั้ง ระหว่างนั้นทางสำนักงานอุตสาหกรรมจ.ระยอง ไม่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุขัดข้องในการหยุดเดินเครื่องจักรแต่อย่างใด
แต่ส่วนหยุดเดินเครื่องจักรครั้งละ 10-15-20 นาที และในช่วงวันที่ 1-30 เมษายน หยุดเดินเครื่องจักรรวม 23 ครั้ง มีการหยุดใหญ่ในวันที่ 20 เมษายนจำนวน 1 ครั้ง สาเหตุเกิดจากโรงไฟฟ้าระยอง 1 ที่จ่ายกระแสไฟให้ไออาร์พีซี ดับ ทำให้โรงงานในไออาร์พีซีรวมทั้งหมด 16 โรงงาน ต้องทำการชัตดาว์น ปล่อยแฟร์มีกลุ่มควันดำจำนวนมาก และได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุเดือดร้อนรำคาญ จากการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่กรมโรงงานพบข้อบกพร่องจริง ทั้งการปล่อยระบายฝุ่นละออง เขม่าควันดำ กลิ่นไอสารเคมีและเปลวไฟออกมาจำนวนมากกว่าปกติทางปล่องระบาย 2 จุด
ล่าสุด นายศุภชัย ศิริวัฒนเจริญชัย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้มีคำสั่งให้ ไออาร์พีซี ผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี เคมีภัณฑ์และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องตามที่ได้รับการร้องเรียนจากนายสุทธิ อัชฌาศัย เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมามีคำสั่งลงวันที่ 25 เมษายน ห้ามไม่ให้ไออาร์พีซี ปล่อยของเสียออกมากผิดปกตินอกบริเวณโรงงานและให้กำหนดมาตรการป้องกันชัดเจน โดยกำหนดเวลาปรับปรุงถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
นายอุดม ศิริภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านแลง 1 ในคณะทำงาน กล่าวในที่ประชุมว่า ทุกวันนี้กลิ่นเหม็นยังรบกวนเกือบทุกวันและในวันเดียวกันนี้มีกลิ่นเหม็นรุนแรงมากที่บริเวณสวนผลไม้ของผมซึ่งเป็นสวนผลไม้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีนักท่องเที่ยวมาจาก จ.ราชบุรี มาเที่ยวชมสวนผลไม้ได้รับกลิ่นเหม็นและพูดว่าเขาไม่เคยเจอกลิ่นเหม็นอย่างนี้เลย พร้อมท้าให้ไปพิสูจน์กลิ่นวันนี้เลย เพราะฉะนั้นมาตรการการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นให้ทำอย่างจริงจัง
ผจก.ฝ่ายกิจการสังคม บ.ไออาร์พีซี กล่าวขอโทษชาวบ้านเรื่องกลิ่นเนื่องจากเมื่อ 2 -3 วันที่ผ่านมากรณีเรื่องกลิ่นกระจายตัวสาเหตุในขณะนี้มีลมแรง อากาศและทิศทางลมแปรปรวน เจ้าหน้าที่บริษัทฯได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเราเอง และในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนมิถุนายน ยังจะมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์เรื่องกลิ่นได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ภาคสนามกำลังเร่งดำเนินการ สำรวจรวมทั้งสิ้น 320 จุดเพื่อนำมาเปรียบเทียบ หลังหยุดใช้น้ำมันเตา และหม้อไอน้ำ กำลังดำเนินการเปลี่ยนมาใช้แก๊สธรรมชาติคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน นี้ ปัญหาเรื่องกลิ่นจะหมดไป