ท็อปส์ ปรับตัวสู้รับศึก บิ๊กซี-เทสโก้โลตัส ปล่อยหมัดเด็ด “เอ็กซ์ตร้า” ดันท็อปส์ซูเปอร์และเดลี่ชน ทยอยปรับซูเปอร์แล้ว 3 แห่ง เพิ่มสินค้า พร้อมรุกหนักเดลี่ เป้าหมายเปิดใหม่ 100 สาขาปีนี้
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือซีอาร์ซี เปิดเผยถึงกรณีการปรับตัวของโมเดิร์นเทรด 2 รายใหญ่ คือ บิ๊กซีภายหลังควมรวมกิจการกับคาร์ฟูร์ และเทสโก้โลตัส ที่ทั้งคู่ปรับโฉมสาขาเดิมเป็น เอ็กซ์ตร้า ว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยต่อบริษัทฯโดยเฉพาะแบรนด์ ท็อปส์ซูเปอร์กับท็อปส์เดลี่ แต่หากมองในภาพรวมทั้งบริษัทฯแล้ว ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก อีกทั้งโปรโมชั่นแคมเปญคูปองเงินสดที่ทั้งคู่ออกมาแข่งขันเมื่อช่วงต้นปีระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ทำให้ตลาดรวมไฮเปอร์มาร์เก็ตเติบโตอย่างมากถึง 10%
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมปรับโฉมท็อปส์ซูเปอร์ใหม่เพื่อรองรับกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้โมเดิร์นเทรดเริ่มปรับตัวเพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้นด้วยรูปแบบเอ็กซ์ตร้า จากเดิมที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ซีและดีเป็นหลัก เพราะไม่เช่นนั้นก็จะได้ลูกค้าแค่กลุ่มเดิมเท่านั้น
โดยท็อปส์ซูเปอร์จะหันมาเน้นการปรับปรุงด้านสินค้าและบริการ ซึ่งปรับไปแล้ว 3 สาขา จากทั้งหมดฟอร์แมทนี้ที่มี 54 สาขา คาดว่าภายใน 2 ปีจากนี้จะปรับปรุงแล้วเสร็จทั้งหมด เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของท็อปส์ซูเปอร์และเดลี่นั้นจะเป็นกลุ่มเริ่มทำงาน และแม่บ้านมือใหม่ ที่ต้องการโซลูชันใหม่ๆของอาหารและความคุ้มค่าทางการจับจ่ายมากขึ้น บริการใหม่ๆที่ท็อปส์เริ่มนำมาใช้ แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกสาขาคือ อี-คอมเมิร์ซ ที่เริ่มบางฟอร์แมทและทำเป็นโซนเช่น สุขุมวิท รัชดาภิเษก ลาดพร้าว เป็นต้น มีสินค้ากว่า 3,000 รายการที่เข้าร่วม
ขณะที่ท็อปส์เดลี่จะขยายสาขามากขึ้น ปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่รวม 100 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาท็อปส์เดลี่102 สาขา ส่วนปี 2555 บริษัทมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 200 สาขา ซึ่งจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านท็อปส์ เดลี่ คาดว่าในอีก 4 ปีนับจากนี้จะมีสาขาฟอร์แม็ทนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะเน้นฟอร์แมทนี้มากขึ้น เพราะกฎหมายผังเมืองควบคุมการขยายธุรกิจขนาดใหญ่ทำให้ขยายตัวลำบาก
“เราไม่ได้กลัวที่บิ๊กทูแบรนด์ไฮเปอร์มาร์เก็ตเปิดตัวเอ็กซ์ตร้า (Extra) เพราะเรามีจุดแข็งเรื่อง คุณภาพ ความสดของอาหาร และความหลากหลายอยู่แล้ว ไม่มีใครสู้เราได้ เรามีทีมงานเมอร์ชันไดซ์และซอร์สซิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ (Expertise) ที่แตกต่างกัน”
สำหรับเครือข่ายของท็อปส์ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าและเทสโก้โลตัสเอ็กซ์ตร้าพระรามสี่นั้น มีประมาณ 10 กว่าสาขา ทั้งท็อปส์ซูเปอร์และท็อปส์มาร์เก็ต เช่น สุขุมวิทต้นๆ สีลม พระรามสี่ พระรามสาม เป็นต้นรวมกว่า 10 สาขา ทั้งนี้ปีนี้ตั้งงบลงทุนเปิดสาขาใหม่รวมทั้งการรีโนเวตไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาใหม่เช่น ท็อปส์มาร์เก็ต 3 สาขาที่พระรามเก้า ลาดพร้าว พิษณุโลก
ล่าสุดได้ปรับโฉมเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์สาขาเซ็นทรัลชิดลมใหม่ด้วยงบลงทุนกว่า 80 ล้านบาท เพิ่มสินค้ารวมมากกว่า 5,000 รายการ รวมเป็นมากกว่า 80,000 รายการ เพิ่มสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟและเพิ่มร้านค้าเช่าอีก คาดว่าหลังจากปรับเสร็จแล้วลูกค้าจะมียอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้น 10%
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯมาจาก 1.ท็อปส์มาร์เก็ต 50% จำนวน 40 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 450 บาท ความถี่ลูกค้าเข้าร้าน 3.5 ครั้งต่อเดือน 2.ฟู้ดฮอลล์ จำนวน 4 สาขา และไวน์เซ็ลล่าร์ 3 สาขา สัดส่วน 15% ยอดซื้อต่อบิล 4,000 บาท 3. ท็อปส์ซูเปอร์ 27% จำนวน 54 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 350 บาท ความถี่เข้าร้าน 4 ครั้งต่อเดือน 4.ท็อปส์เดลี่ 8% จำนวน 102 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 180 บาท ความถี่เข้าร้าน 4ครั้งต่อเดือน ทั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของท็อปส์เดลี่เป็น 50% ภายใน 5 ปีจากนี้ รวมปัจจุบันมีทั้งหมด 203 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 127 สาขา ต่างจังหวัด 76 สาขา
นางสาวภัทรพร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสมาชิกสปอตรีวอร์ดการ์ด รวม 5.1 ล้านราย แอคทีฟ 80% หรือ 4 ล้านราย โดยมีท็อปส์ทเวนตี้มากกว่า 500,000 ราย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 5% และความถี่เพิ่มขึ้น 2% ซึ่งมาจากท็อปส์เดลี่เป็นหลัก
นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือซีอาร์ซี เปิดเผยถึงกรณีการปรับตัวของโมเดิร์นเทรด 2 รายใหญ่ คือ บิ๊กซีภายหลังควมรวมกิจการกับคาร์ฟูร์ และเทสโก้โลตัส ที่ทั้งคู่ปรับโฉมสาขาเดิมเป็น เอ็กซ์ตร้า ว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยต่อบริษัทฯโดยเฉพาะแบรนด์ ท็อปส์ซูเปอร์กับท็อปส์เดลี่ แต่หากมองในภาพรวมทั้งบริษัทฯแล้ว ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก อีกทั้งโปรโมชั่นแคมเปญคูปองเงินสดที่ทั้งคู่ออกมาแข่งขันเมื่อช่วงต้นปีระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ทำให้ตลาดรวมไฮเปอร์มาร์เก็ตเติบโตอย่างมากถึง 10%
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมปรับโฉมท็อปส์ซูเปอร์ใหม่เพื่อรองรับกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น เนื่องจากขณะนี้โมเดิร์นเทรดเริ่มปรับตัวเพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้นด้วยรูปแบบเอ็กซ์ตร้า จากเดิมที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ซีและดีเป็นหลัก เพราะไม่เช่นนั้นก็จะได้ลูกค้าแค่กลุ่มเดิมเท่านั้น
โดยท็อปส์ซูเปอร์จะหันมาเน้นการปรับปรุงด้านสินค้าและบริการ ซึ่งปรับไปแล้ว 3 สาขา จากทั้งหมดฟอร์แมทนี้ที่มี 54 สาขา คาดว่าภายใน 2 ปีจากนี้จะปรับปรุงแล้วเสร็จทั้งหมด เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของท็อปส์ซูเปอร์และเดลี่นั้นจะเป็นกลุ่มเริ่มทำงาน และแม่บ้านมือใหม่ ที่ต้องการโซลูชันใหม่ๆของอาหารและความคุ้มค่าทางการจับจ่ายมากขึ้น บริการใหม่ๆที่ท็อปส์เริ่มนำมาใช้ แต่ยังไม่ครอบคลุมทุกสาขาคือ อี-คอมเมิร์ซ ที่เริ่มบางฟอร์แมทและทำเป็นโซนเช่น สุขุมวิท รัชดาภิเษก ลาดพร้าว เป็นต้น มีสินค้ากว่า 3,000 รายการที่เข้าร่วม
ขณะที่ท็อปส์เดลี่จะขยายสาขามากขึ้น ปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่รวม 100 สาขา จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาท็อปส์เดลี่102 สาขา ส่วนปี 2555 บริษัทมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 200 สาขา ซึ่งจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านท็อปส์ เดลี่ คาดว่าในอีก 4 ปีนับจากนี้จะมีสาขาฟอร์แม็ทนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะเน้นฟอร์แมทนี้มากขึ้น เพราะกฎหมายผังเมืองควบคุมการขยายธุรกิจขนาดใหญ่ทำให้ขยายตัวลำบาก
“เราไม่ได้กลัวที่บิ๊กทูแบรนด์ไฮเปอร์มาร์เก็ตเปิดตัวเอ็กซ์ตร้า (Extra) เพราะเรามีจุดแข็งเรื่อง คุณภาพ ความสดของอาหาร และความหลากหลายอยู่แล้ว ไม่มีใครสู้เราได้ เรามีทีมงานเมอร์ชันไดซ์และซอร์สซิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ (Expertise) ที่แตกต่างกัน”
สำหรับเครือข่ายของท็อปส์ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าและเทสโก้โลตัสเอ็กซ์ตร้าพระรามสี่นั้น มีประมาณ 10 กว่าสาขา ทั้งท็อปส์ซูเปอร์และท็อปส์มาร์เก็ต เช่น สุขุมวิทต้นๆ สีลม พระรามสี่ พระรามสาม เป็นต้นรวมกว่า 10 สาขา ทั้งนี้ปีนี้ตั้งงบลงทุนเปิดสาขาใหม่รวมทั้งการรีโนเวตไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาใหม่เช่น ท็อปส์มาร์เก็ต 3 สาขาที่พระรามเก้า ลาดพร้าว พิษณุโลก
ล่าสุดได้ปรับโฉมเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์สาขาเซ็นทรัลชิดลมใหม่ด้วยงบลงทุนกว่า 80 ล้านบาท เพิ่มสินค้ารวมมากกว่า 5,000 รายการ รวมเป็นมากกว่า 80,000 รายการ เพิ่มสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟและเพิ่มร้านค้าเช่าอีก คาดว่าหลังจากปรับเสร็จแล้วลูกค้าจะมียอดใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มขึ้น 10%
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯมาจาก 1.ท็อปส์มาร์เก็ต 50% จำนวน 40 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 450 บาท ความถี่ลูกค้าเข้าร้าน 3.5 ครั้งต่อเดือน 2.ฟู้ดฮอลล์ จำนวน 4 สาขา และไวน์เซ็ลล่าร์ 3 สาขา สัดส่วน 15% ยอดซื้อต่อบิล 4,000 บาท 3. ท็อปส์ซูเปอร์ 27% จำนวน 54 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 350 บาท ความถี่เข้าร้าน 4 ครั้งต่อเดือน 4.ท็อปส์เดลี่ 8% จำนวน 102 สาขา ยอดซื้อต่อบิล 180 บาท ความถี่เข้าร้าน 4ครั้งต่อเดือน ทั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของท็อปส์เดลี่เป็น 50% ภายใน 5 ปีจากนี้ รวมปัจจุบันมีทั้งหมด 203 สาขา แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 127 สาขา ต่างจังหวัด 76 สาขา
นางสาวภัทรพร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีสมาชิกสปอตรีวอร์ดการ์ด รวม 5.1 ล้านราย แอคทีฟ 80% หรือ 4 ล้านราย โดยมีท็อปส์ทเวนตี้มากกว่า 500,000 ราย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 5% และความถี่เพิ่มขึ้น 2% ซึ่งมาจากท็อปส์เดลี่เป็นหลัก