เริ่มกันที่เศรษฐกิจฝั่งยุโรป หรือ EU กำหนดประชุมฉุกเฉิน 21 ก.ค. หลังจากได้มีการอัดฉีดเงินร่วมกันเกือบ 200,000 ล้านยูโร แก่ประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ที่ประสบปัญหา "วิกฤตหนี้!!..."
เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ธนาคารยุโรปทดสอบฐานะเงิน ผลปรากฏว่ามี 8 ธนาคารยุโรปไม่ผ่านการทดสอบ! ขณะที่เมืองรองเท้าบู๊ท "อิตาลี" หลังจากสภาอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดตัวเลขขาดดุลในประเทศ ล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอิตาลีลงมติด้วยคะแนน 316 ต่อ 284 เสียง ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อย...
มีการตั้งเป้าลดการใช้จ่ายภาครัฐ 48,000 ล้านยูโร (ราว 2 ล้านล้านบาท) ภายในเวลา 3 ปี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ที่สูงถึง 1.19 เท่าของจีดีพี สำหรับอิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป มีหนี้สาธารณะสูงในอันดับต้นๆ เป็นการสกัดวิกฤตหนี้สาธารณะที่กำลังลุกลามและกัดกร่อนเศรษฐกิจประเทศยุโรป "ก่อนเดินรอยตามกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกส..."
กลับมาที่ประเทศไทย แม้หนี้สาธารณะยังไม่ถึงจุดอันตราย แต่การทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการประชานิยมแบบไม่สนใจฐานะทางการเงิน อาจนำประเทศเข้าสู่ความเสี่ยงก็เป็นได้นะ ยิ่งเละ? อุ๊ย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร..."
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในรอบ 1 ปี พบว่าปรับขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 2%...
โดยแบงก์ชาติติดตามผล 5 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ปรากฏว่ามีการปรับดอกเบี้ยออมทรัพย์แค่ 0.27% ปรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน 1.3-1.55% และปรับดอกเบี้ยงเงินฝากประจำ 12 เดือนเพียง 1.6-1.8% ฝั่งดอกเบี้ยเงินกู้พบว่าเอ็มแอลอาร์ถูกปรับขึ้นเพียง 0.91% แม้ยังมีส่วนดีอยู่บ้างที่ผู้กู้เงินไม่ต้องรับภาระหนักเกินแต่ผู้ฝากเองก็ได้รับผลตอบแทนที่ต่ำไปด้วย ส่วนที่มีปัญหาแน่ๆ ก็คือการสกัดอัตราเงินเฟ้อส่อ "ไม่ทันการณ์!@#..."
ไหนจะโดนกดดันจากนโยบายจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 300บาทต่อวัน ของว่าที่รัฐบาลเพื่อไทย แบงก์ชาติภายใต้การนำของ "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" คงทำงานลำบาก@!..
แน่นอนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท กระทบผู้ประกอบการ SME ไปเต็มๆ ในงานเมดอินไทยแลนด์ 2554 เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้างว่า ไม่ควรทำ หากจะทำต้องทำในลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะปัจจุบันออเดอร์สินค้าอยู่ในช่วง "ขาลง" จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาล "ยิ่งเละ" ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ!!..
แม้ล่าสุด "ทักษิณ" หาทางลงให้ "ปูโคลนนิ่ง" ด้วยการผ่อนนโยบาย 300 บาทใช้แค่ในกรุงเทพฯ ทว่านักธุรกิจขาใหญ่ในสภาอุตฯ ยังยืนยันว่าแม้จะขึ้นเฉพาะเมืองหลวงก็อาจจะเกิดผลกระทบ "เป็นลูกโซ่" ฟันธง! 300 บาท "ไม่หมู" กลายเป็นบ่วงรัดคอ (ว่าที่) นาวารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ให้ล่มก่อนวัยอันควร ยกเว้นกระแสค่อยๆ เงียบไป เพราะ "บังแม้ว" คุมสื่อได้ 555!!..
เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ธนาคารยุโรปทดสอบฐานะเงิน ผลปรากฏว่ามี 8 ธนาคารยุโรปไม่ผ่านการทดสอบ! ขณะที่เมืองรองเท้าบู๊ท "อิตาลี" หลังจากสภาอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดตัวเลขขาดดุลในประเทศ ล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอิตาลีลงมติด้วยคะแนน 316 ต่อ 284 เสียง ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเรียบร้อย...
มีการตั้งเป้าลดการใช้จ่ายภาครัฐ 48,000 ล้านยูโร (ราว 2 ล้านล้านบาท) ภายในเวลา 3 ปี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ที่สูงถึง 1.19 เท่าของจีดีพี สำหรับอิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป มีหนี้สาธารณะสูงในอันดับต้นๆ เป็นการสกัดวิกฤตหนี้สาธารณะที่กำลังลุกลามและกัดกร่อนเศรษฐกิจประเทศยุโรป "ก่อนเดินรอยตามกรีซ ไอร์แลนด์และโปรตุเกส..."
กลับมาที่ประเทศไทย แม้หนี้สาธารณะยังไม่ถึงจุดอันตราย แต่การทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการประชานิยมแบบไม่สนใจฐานะทางการเงิน อาจนำประเทศเข้าสู่ความเสี่ยงก็เป็นได้นะ ยิ่งเละ? อุ๊ย "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร..."
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ในรอบ 1 ปี พบว่าปรับขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว 2%...
โดยแบงก์ชาติติดตามผล 5 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ปรากฏว่ามีการปรับดอกเบี้ยออมทรัพย์แค่ 0.27% ปรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน 1.3-1.55% และปรับดอกเบี้ยงเงินฝากประจำ 12 เดือนเพียง 1.6-1.8% ฝั่งดอกเบี้ยเงินกู้พบว่าเอ็มแอลอาร์ถูกปรับขึ้นเพียง 0.91% แม้ยังมีส่วนดีอยู่บ้างที่ผู้กู้เงินไม่ต้องรับภาระหนักเกินแต่ผู้ฝากเองก็ได้รับผลตอบแทนที่ต่ำไปด้วย ส่วนที่มีปัญหาแน่ๆ ก็คือการสกัดอัตราเงินเฟ้อส่อ "ไม่ทันการณ์!@#..."
ไหนจะโดนกดดันจากนโยบายจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 300บาทต่อวัน ของว่าที่รัฐบาลเพื่อไทย แบงก์ชาติภายใต้การนำของ "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" คงทำงานลำบาก@!..
แน่นอนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท กระทบผู้ประกอบการ SME ไปเต็มๆ ในงานเมดอินไทยแลนด์ 2554 เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นค่าจ้างว่า ไม่ควรทำ หากจะทำต้องทำในลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะปัจจุบันออเดอร์สินค้าอยู่ในช่วง "ขาลง" จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาล "ยิ่งเละ" ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ!!..
แม้ล่าสุด "ทักษิณ" หาทางลงให้ "ปูโคลนนิ่ง" ด้วยการผ่อนนโยบาย 300 บาทใช้แค่ในกรุงเทพฯ ทว่านักธุรกิจขาใหญ่ในสภาอุตฯ ยังยืนยันว่าแม้จะขึ้นเฉพาะเมืองหลวงก็อาจจะเกิดผลกระทบ "เป็นลูกโซ่" ฟันธง! 300 บาท "ไม่หมู" กลายเป็นบ่วงรัดคอ (ว่าที่) นาวารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ให้ล่มก่อนวัยอันควร ยกเว้นกระแสค่อยๆ เงียบไป เพราะ "บังแม้ว" คุมสื่อได้ 555!!..