“คมนาคม” สั่ง ขสมก.ทำรายละเอียดสัดส่วนจำนวนรถในแผน 155 เส้นทาง 7,700 คัน ระหว่าง ขสมก.-รถร่วมเอกชนใหม่ หลังพบผู้ประกอบการจัดหารถแอร์ใหม่เพิ่มมากขึ้นในรอบ 2 ปี และวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสีย หากมีรถร้อนเป็นทางเลือก ให้สรุปใน ก.ค.นี้ เสนอประกอบการพิจารณารถเมล์ NGV 4,000 คัน ชี้ หากมีรถในระบบเพิ่มขึ้นอาจไม่ต้องจัดหา NGV ถึง 4,000 คัน
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในส่วนของการจัดเส้นทางเดินรถและจำนวนรถประสิทธิภาพ ว่า ผลการศึกษาพบว่า การเดินรถในระบบเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ควรมี 155 เส้นทาง จำนวนรถประมาณ 7,700 คัน โดยได้ให้ ขสมก.ทำรายละเอียดสัดส่วนจำนวนรถที่เหมาะสมระหว่างรถของ ขสมก.และรถของเอกชน รวมถึงพิจารณากรณีที่ต้องมีรถร้อน เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารต่ำกว่ารถปรับอากาศเป็นทางเลือกสำหรับประชาชน มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร และควรมีสัดส่วนเท่าไร โดยให้สรุปข้อมูลและการวิเคราะห์ทั้งหมดภายในเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จะทำให้ทราบว่าจำนวนรถโดยสารที่ให้บริการทั้งหมดว่าควรเป็นเท่าไร แล้วจะทำให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน,ขสมก.และรถร่วมเอกชน ในภาพรวม ซึ่งจะนำข้อมูลประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลในการพิจารณาโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิง (CNG) จำนวน 4,000 คัน ที่จะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง โดยหากพบว่า จำนวนรถในระบบปัจจุบัน โดยเฉพาะรถร่วมฯ ที่ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนนำรถใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้การจัดหารถใหม่ของขสมก.ไม่จำเป็นต้องถึง 4,000 คันก็ได้
“ข้อมูลโครงการ 4,000 คัน และการปรับปรุงเส้นทางเดินรถต่างๆ มีการศึกษาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ทุกวันนี้จะเห็นรถร่วมมีรถใหม่ปรับอากาศเพิ่มขึ้น รวมถึงต้องประเมินความต้องการรถร้อนของประชาชนอีกด้วย ถ้ามี 155 เส้นทาง จำนวนรถ 7,700 คัน ก็ต้องบอกได้ว่า ควรเป็นรถของเอกชนเท่าไร ขสมก.เท่าไร รถแอร์เท่าไร รถร้อนเท่าไร ซึ่งข้อมูลมีบ้างแล้วแต่ยังต้องปรับปรุงอีก เราต้องทำข้อมูลใหม่เพื่อชี้แจงเมื่อมีการเสนอโครงการต่อครม. จะต้องตอบคำถามเหล่านี้”นายศรศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่า หากปรับปรุงเส้นทางเดินรถเป็น 155 เส้นทาง โดยมีรถจำนวน 7,700 คันให้บริการจะทำให้ลดเวลาการเดินทางของประชาชนลงได้จาก 175 นาที/คน/วัน เหลือ 106 นาที/คน/วัน ในขณะที่ปัจจุบันมีการเดินรถทั้งสิ้น 209 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางของ ขสมก. 101 เส้นทาง รถร่วมฯ 101 เส้นทางและเส้นทางที่ขสมก.และรถร่วมฯ ให้บริการร่วมกัน อีก 7 เส้นทาง โดยรถร่วมเอกชนมีรถในระบบประมาณ 3,700-3,900 คัน
นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในส่วนของการจัดเส้นทางเดินรถและจำนวนรถประสิทธิภาพ ว่า ผลการศึกษาพบว่า การเดินรถในระบบเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ควรมี 155 เส้นทาง จำนวนรถประมาณ 7,700 คัน โดยได้ให้ ขสมก.ทำรายละเอียดสัดส่วนจำนวนรถที่เหมาะสมระหว่างรถของ ขสมก.และรถของเอกชน รวมถึงพิจารณากรณีที่ต้องมีรถร้อน เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารต่ำกว่ารถปรับอากาศเป็นทางเลือกสำหรับประชาชน มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร และควรมีสัดส่วนเท่าไร โดยให้สรุปข้อมูลและการวิเคราะห์ทั้งหมดภายในเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จะทำให้ทราบว่าจำนวนรถโดยสารที่ให้บริการทั้งหมดว่าควรเป็นเท่าไร แล้วจะทำให้เห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน,ขสมก.และรถร่วมเอกชน ในภาพรวม ซึ่งจะนำข้อมูลประกอบการตัดสินใจของรัฐบาลในการพิจารณาโครงการเช่าและซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิง (CNG) จำนวน 4,000 คัน ที่จะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง โดยหากพบว่า จำนวนรถในระบบปัจจุบัน โดยเฉพาะรถร่วมฯ ที่ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนนำรถใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้การจัดหารถใหม่ของขสมก.ไม่จำเป็นต้องถึง 4,000 คันก็ได้
“ข้อมูลโครงการ 4,000 คัน และการปรับปรุงเส้นทางเดินรถต่างๆ มีการศึกษาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบันข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ทุกวันนี้จะเห็นรถร่วมมีรถใหม่ปรับอากาศเพิ่มขึ้น รวมถึงต้องประเมินความต้องการรถร้อนของประชาชนอีกด้วย ถ้ามี 155 เส้นทาง จำนวนรถ 7,700 คัน ก็ต้องบอกได้ว่า ควรเป็นรถของเอกชนเท่าไร ขสมก.เท่าไร รถแอร์เท่าไร รถร้อนเท่าไร ซึ่งข้อมูลมีบ้างแล้วแต่ยังต้องปรับปรุงอีก เราต้องทำข้อมูลใหม่เพื่อชี้แจงเมื่อมีการเสนอโครงการต่อครม. จะต้องตอบคำถามเหล่านี้”นายศรศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาพบว่า หากปรับปรุงเส้นทางเดินรถเป็น 155 เส้นทาง โดยมีรถจำนวน 7,700 คันให้บริการจะทำให้ลดเวลาการเดินทางของประชาชนลงได้จาก 175 นาที/คน/วัน เหลือ 106 นาที/คน/วัน ในขณะที่ปัจจุบันมีการเดินรถทั้งสิ้น 209 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางของ ขสมก. 101 เส้นทาง รถร่วมฯ 101 เส้นทางและเส้นทางที่ขสมก.และรถร่วมฯ ให้บริการร่วมกัน อีก 7 เส้นทาง โดยรถร่วมเอกชนมีรถในระบบประมาณ 3,700-3,900 คัน