ASTVผู้จัดการายวัน-ขสมก.เตรียมประมูลเช่าระบบe-Ticket ติดตั้งในรถแอร์ 1,500คัน ระยะเวลา5ปี วงเงิน 703.5ล้านบาท "โอภาส"ระบุนำมาแก้ปัญหาขาดพนักงานซึ่งจะเริ่มส่งผลกระทบในปี 55 หลังต้องลดคนตามแผนฟื้นฟู เผยอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความเห็นได้ข้อสรุปจะรายงาน"คมนาคม"ขอนโยบายอีกครั้ง ยันจำเป็นต้องทำหลังรถเมล์ NGV4,000คันถูกแช่แข็ง
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้เปิดประกวดราคาเพื่อหาผู้เข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (e-Ticket) บนรถโดยสารปรับอากาศประมาณ1,500คัน โดยขณะนี้ได้ประกาศร่างทีโออาร์แล้ว และอยู่ระหว่างเปิดให้ผู้สนใจเข้าไปแสดงความเห็น ซึ่งมีประมาณ4-5รายแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ มาพิจารณา และปรับปรุงทีโออาร์ หากมีข้อเสนอแนะใดเป็นประโยชน์
จึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปของการประกวดราคาเพื่อไม่ให้เกิดครหาในเรื่องการล็อคสเปค
ทั้งนี้ การประมูลจัดหาระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติดังกล่าว มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากใน1-2ปีข้างหน้า ขสมก.จะอยู่ในภาวะขาดแคลนพนักงาน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูขสมก.เมื่อปี 2553ซึ่งมีเงื่อนไขในเรื่องจำนวนพนักงานขสมก.ที่จะต้องมีจำนวน9,970คน ไม่สามารถเพิ่มจำนวนพนักงานได้ ประกอบกับมีพนักงานเกษียณตามกำหนดและขอเกษียณก่อนอายุ (Early Retire) ทุกปี
"ที่ผ่านมาโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหรือรถเมล์ NGV จำนวน4,000คันยังไม่มีอะไรคืบหน้า ดังนั้น ในระหว่างนี้ขสมก. ก็ไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้ ต้องหาทางเพื่อให้การบริการไม่มีปัญหา ซึ่งโครงการประมูล e-Ticketยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ และจะต้องรอนโยบายจากรัฐบาลและรมว.คมนาคนใหม่ ซึ่งจะต้องนำเรื่องนี้รายงานต่อไป หากมีนโยบายอย่างไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้"นายโอภาสกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันขสมก.มีรถทั้งสิ้นประมาณ3,500คัน แต่สามารถใช้งานได้ ประมาณ2,700คัน โดยเป็นรถร้อนประมาณ1,000คัน เป็นรถปรับอากาศประมาณ1,500คัน ซึ่งจะนำe-Ticket มาติดตั้งในส่วนของรถปรับอากาศโดยเฉลี่ยรถ1คันจะใช้พนักงานเก็บค่าโดยสารประมาณ2.5คนต่อวัน โดย1วันจะมีพนักงาน2กะ ซึ่งปัจจุบันจะใช้พนักงานหมุนเวียนร่วมกับรถเมล์ฟรีที่บางคันอาจไม่ต้องมีพนักงานเก็บค่าโดยสารได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ไปตลอด เนื่องจากพนักงานเก็บค่าโดยสารจะต้องมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วย นอกเหนือจากการเก็บค่าโดยสาร และในปี 2555ขสมก.อาจจะเข้าสู่ภาวะพนักงานเก็บค่าโดยสารไม่พอ
โดยขสมก.ได้ประกาศร่างทีโออาร์ โครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 บนรถโดยสารจำนวน 1,500 คัน เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินโครงการประมาณ 703,537,500 บาท โดยระบุว่าเป็นไปตามนโยบายนำเทคโนโลยีระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket System) มาร่วมใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการชำระค่าโดยสาร
รายละเอียดของโครงการ ประกอบด้วย ระบบจัดเก็บค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (Front End) ส่วนที่ติดต่อกับผู้โดยสารโดยตรง ได้แก่ 1. บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ 300,000 ใบ 2.เครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์บนรถโดยสาร 1,500 ชุด 3.เครื่องเติมมูลค่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา 300 เครื่อง 4.ระบบตรวจสอบมูลค่าบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ 200 เครื่อง ระบบจัดเก็บรายได้ (Back End) ได้แก่ 1.ระบบจัดเก็บรายได้ 2.เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์และเครือข่าย 3.ศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศส่วนกลางและอู่จอดรถ ระบบหักบัญชี Clearing ระบบบริหารจัดการบัตร ทั้งนี้ ขสมก.ได้ประกาศรายละเอียดร่างทีโออาร์บนเวบไซต์ของขสมก.เพื่อให้เอกชนที่สนใจเข้าร่วมแสดงความเห็นก่อน เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสม หลังจากนั้นจะประกาศประกวดราคาต่อไป
นายโอภาส เพชรมุณี ผู้อำนวยการองค์การขนส่งกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.ได้เปิดประกวดราคาเพื่อหาผู้เข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (e-Ticket) บนรถโดยสารปรับอากาศประมาณ1,500คัน โดยขณะนี้ได้ประกาศร่างทีโออาร์แล้ว และอยู่ระหว่างเปิดให้ผู้สนใจเข้าไปแสดงความเห็น ซึ่งมีประมาณ4-5รายแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ มาพิจารณา และปรับปรุงทีโออาร์ หากมีข้อเสนอแนะใดเป็นประโยชน์
จึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปของการประกวดราคาเพื่อไม่ให้เกิดครหาในเรื่องการล็อคสเปค
ทั้งนี้ การประมูลจัดหาระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติดังกล่าว มีความจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากใน1-2ปีข้างหน้า ขสมก.จะอยู่ในภาวะขาดแคลนพนักงาน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูขสมก.เมื่อปี 2553ซึ่งมีเงื่อนไขในเรื่องจำนวนพนักงานขสมก.ที่จะต้องมีจำนวน9,970คน ไม่สามารถเพิ่มจำนวนพนักงานได้ ประกอบกับมีพนักงานเกษียณตามกำหนดและขอเกษียณก่อนอายุ (Early Retire) ทุกปี
"ที่ผ่านมาโครงการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหรือรถเมล์ NGV จำนวน4,000คันยังไม่มีอะไรคืบหน้า ดังนั้น ในระหว่างนี้ขสมก. ก็ไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้ ต้องหาทางเพื่อให้การบริการไม่มีปัญหา ซึ่งโครงการประมูล e-Ticketยังอยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ และจะต้องรอนโยบายจากรัฐบาลและรมว.คมนาคนใหม่ ซึ่งจะต้องนำเรื่องนี้รายงานต่อไป หากมีนโยบายอย่างไรก็สามารถปรับเปลี่ยนได้"นายโอภาสกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันขสมก.มีรถทั้งสิ้นประมาณ3,500คัน แต่สามารถใช้งานได้ ประมาณ2,700คัน โดยเป็นรถร้อนประมาณ1,000คัน เป็นรถปรับอากาศประมาณ1,500คัน ซึ่งจะนำe-Ticket มาติดตั้งในส่วนของรถปรับอากาศโดยเฉลี่ยรถ1คันจะใช้พนักงานเก็บค่าโดยสารประมาณ2.5คนต่อวัน โดย1วันจะมีพนักงาน2กะ ซึ่งปัจจุบันจะใช้พนักงานหมุนเวียนร่วมกับรถเมล์ฟรีที่บางคันอาจไม่ต้องมีพนักงานเก็บค่าโดยสารได้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ไปตลอด เนื่องจากพนักงานเก็บค่าโดยสารจะต้องมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วย นอกเหนือจากการเก็บค่าโดยสาร และในปี 2555ขสมก.อาจจะเข้าสู่ภาวะพนักงานเก็บค่าโดยสารไม่พอ
โดยขสมก.ได้ประกาศร่างทีโออาร์ โครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ระยะที่ 1 บนรถโดยสารจำนวน 1,500 คัน เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินโครงการประมาณ 703,537,500 บาท โดยระบุว่าเป็นไปตามนโยบายนำเทคโนโลยีระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket System) มาร่วมใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าโดยสาร เพื่อเพิ่มทางเลือกในการชำระค่าโดยสาร
รายละเอียดของโครงการ ประกอบด้วย ระบบจัดเก็บค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (Front End) ส่วนที่ติดต่อกับผู้โดยสารโดยตรง ได้แก่ 1. บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ 300,000 ใบ 2.เครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์บนรถโดยสาร 1,500 ชุด 3.เครื่องเติมมูลค่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา 300 เครื่อง 4.ระบบตรวจสอบมูลค่าบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ 200 เครื่อง ระบบจัดเก็บรายได้ (Back End) ได้แก่ 1.ระบบจัดเก็บรายได้ 2.เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์และเครือข่าย 3.ศูนย์ปฏิบัติการสารสนเทศส่วนกลางและอู่จอดรถ ระบบหักบัญชี Clearing ระบบบริหารจัดการบัตร ทั้งนี้ ขสมก.ได้ประกาศรายละเอียดร่างทีโออาร์บนเวบไซต์ของขสมก.เพื่อให้เอกชนที่สนใจเข้าร่วมแสดงความเห็นก่อน เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสม หลังจากนั้นจะประกาศประกวดราคาต่อไป