xs
xsm
sm
md
lg

ชาวไร่อ้อยผนึกโรงงานยื่นรัฐบาลใหม่ เลิกคุมราคาน้ำตาลปูทางสู่ระบบลอยตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวไร่อ้อย-โรงงานน้ำตาลทราย ประสานเสียง เตรียมเสนอรัฐบาลเพื่อไทย ปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายสู่ระบบลอยตัว หมดยุคควบคุมราคาแล้ว ไม่อยากซ้ำรอยรัฐบาล"มาร์ค" น้ำตาลขาดรับไม่ได้ ส่งซิกห้ามลดเงินกองทุนอ้อยฯ 5 บาทพร้อมให้ประกาศชัดเจนนโยบายนำอ้อยไปผลิตพลังงานและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง

นายชัยวัฒน์ คำแก่นคูณ ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน เปิดเผยว่า ชาวไร่อ้อยพร้อมเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายทั้งระบบต่อรัฐบาลเพื่อไทย เพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องยกเลิกการควบคุมราคาน้ำตาลทราย เพื่อนำไปสู่การลอยตัว แต่หากรัฐบาลเกรงจะกระทบผู้บริโภคก็อาจจะต้องมีเพดานกำหนดไว้ เนื่องจากรัฐบาลประชาธิปัตย์ควบคุมจนทำให้น้ำตาลทรายในประเทศขาดแคลน ทั้งที่มีน้ำตาลทรายเหลือบริโภคส่งออกจำนวนมาก เพราะไม่ยอมรับข้อเท็จจริงว่าราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกขณะนั้นสูงกว่าไทยจึงทำให้น้ำตาลส่วนหนึ่งไหลออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

“มันหมดยุคที่จะมาควบคุมราคากันแล้ว ควรจะยกเลิกแล้วปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง เพราะทำน้ำตาลที่ล้นเหลือให้ขาดได้ แล้วคนที่เป็นแพะ คือ พวกผม วันนี้เราเทใจให้เพื่อไทยหวังว่าเราจะได้รับการดูแลเช่นพืชตัวอื่นๆ ทำอย่างไรให้ชาวไร่อ้อยมีหลักประกันราคาพืชผลเช่นเดียวกับพืชอื่นๆ ที่คาดว่าเพื่อไทยจะนำระบบจำนำมาใช้ ซึ่งชาวไร่รับไม่ได้หากจะต้องเดินขบวนประท้วงเพียงให้ได้เงินกู้แล้วต้องแบกรับดอกเบี้ยเช่นอดีตที่ผ่านมา” นายชัยวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่มาจะต้องไม่ลดเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายที่ปัจจุบันได้เก็บจากการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายขายปลีกหน้าโรงงาน 5 บาทต่อกิโลกรัมในการชำระหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ลง แม้ว่าการชำระหนี้จะครบก็ตาม เนื่องจากเงินดังกล่าวควรจะเก็บไว้รักษาเสถียรภาพราคาน้ำตาลทรายในประเทศยามวิกฤตเช่นเดียวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประกอบกับราคาน้ำตาลทรายต่างประเทศยังคงสูงอยู่การลดจะต้องดูข้อเท็จจริงด้วย

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ยังควรมีนโยบายชัดเจนถึงการส่งเสริมการใช้พืชพลังงาน โดยเฉพาะอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ ที่จะต้องมาดูโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะรวมถึงระบบแบ่งปันผลประโยชน์ที่ควรจะตกถึงชาวไร่อ้อย โดยในฤดูการผลิตอ้อยปี 2554/55 มีแนวโน้มอ้อยจะสูงถึง 100 ล้านตัน จึงต้องบริหารจัดการให้ดี

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวว่า ชาวไร่อ้อยยังยืนยันหลักการเดิมที่ถึงเวลาจะต้องมีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำตาล ซึ่งขณะนี้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายได้มีการว่าจ้างสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในการศึกษาโครงสร้างแล้ว ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอรัฐบาล

แหล่งข่าวจาก 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า ราคาน้ำตาลทรายขายปลีกที่กระทรวงพาณิชย์ควบคุมไว้ ต้องถามกลับว่าควบคุมได้จริงหรือไม่ ถึงเวลาจะต้องปรับโครงสร้างได้แล้ว และมองข้อเท็จจริง อย่ายึดที่น้ำตาลทรายถุง 1 กิโลกรัมที่ขายในโมเดิร์นเทรดเป็นตัวชี้วัดว่าขาดแคลน เพราะตลาดนี้บิดเบือนและเอาเปรียบระบบที่จำหน่ายราคาเท่ากันทั่วประเทศทั้งที่ขาดทุน แต่เพียงเป็นการตลาดเรียกลูกค้าเข้ามา ดังนั้น หากจะแก้ไขปัญหาควรจะต้องปรับขึ้นค่าบรรจุภัณฑ์ให้ หรือถ้าต้องการน้ำตาลเพิ่มก็จะต้องนำไปตักขายชั่งกิโลเอง

นางวัลยารีย์ ไพสุขศานติวัฒนา เลขานุการคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า มีอ้อยเข้าหีบปี 2553/54 จำนวน 95.36 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้ 96.39 ล้านกระสอบ (9,639 ล้านกิโลกรัม) เฉลี่ยอ้อย 1 ตัน ผลิตน้ำตาลได้ 101.09 กิโลกรัม ต่ำกว่าผลผลิตเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา ซึ่งอ้อย 1 ตัน ผลิตน้ำตาลได้ 101.17 กิโลกรัม สาเหตุเกิดจากสัดส่วนอ้อยไฟไหม้เพิ่มขึ้น และส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยโดยตรงหายไปเกือบ12,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น