พาณิชย์เตรียมคุมอาหารจานด่วน ขึ้นราคาแล้วไม่ยอมลง-เอาเปรียบลูกค้า

พณ.เร่งคุมเมนูอาหารจานด่วน กำหนดราคาแนะนำ หลังประชาชนร้อนเรียนหนัก ข้าวแกง-อาหารตามสั่ง ปรับขึ้นราคาแล้วไม่ยอมลง แม้ราคาน้ำมันพืช เนื้อหมู และไข่ไก่ จะปรับลงแล้ว ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ลั่นถ้าไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมใช้กฎหมายบังคับแน่

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการพันธมิตรธงฟ้ามหาชนสร้างเครือข่ายร้านอาหารมิตรธงฟ้า เพื่อประชาชน โดยระบุว่า กรมการค้าภายในได้รับการร้องเรียนจากประชาชน กรณีราคาอาหารปรุงสำเร็จ อาหารบรรจุถุง ข้าวแกง รวมถึงอาหารจานด่วนหลายประเภท อาทิ ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง และอาหารตามสั่ง ยังคงมีราคาสูงขึ้น แม้ราคาวัตถุดิบหลัก ได้ปรับราคาลงแล้ว ทั้งเนื้อหมู และไข่ไก่

“เพื่อดูแลและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน คงต้องมีการกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วน เพื่อต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนมายังกรมให้เข้าไปควบคุมราคาอาหารจานด่วน เนื่องจากประชาชนเห็นว่าราคาอาหารจานด่วนได้ปรับขึ้นราคาตามต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น แต่เมื่อต้นทุนวัตถุดิบลงลงมาผู้ประกอบการกลับไม่ยอมปรับลดราคาลงมา ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค”

ทั้งนี้ กรมมีแผนจะกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วน ที่จะใช้ราคาเดียวกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมนูที่นิยมของผู้บริโภค เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวผัดกระเพรา ข้าวไข่เจียว และข้าวราดแกง หรือเป็นเมนูมาตรฐาน เบื้องต้นจะให้จำหน่ายในราคาไม่เกิน 25-30 บาท ซึ่งจะขอความร่วมมือผ่านร้านอาหารในเครือมิตรธงฟ้าทั่วประเทศที่ปัจจุบันมีอยู่ 4,242 แห่ง และมีแผนจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นแห่งให้ได้ภายในปีนี้

นอกจากนี้ กรมเห็นว่า ปัจจุบันประชาชนที่มีรายได้น้อยและปานกลางได้เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจากเดิมที่ซื้อวัตถุดิบมาประกอบการอาหารเอง หันมาซื้ออาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ทำให้มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อที่อาหารสำเร็จรูปมีน้ำหนักในการคำนวณถึง 15% ประกอบกับที่รัฐบาลพยายามปรับลดราคาวัตถุดิบ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ลงมา ดังนั้น ราคาอาหารจานด่วนก็ควรจะกำหนดราคาที่เหมาะสมตามต้นทุนวัตถุดิบด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ราคาแนะนำอาหารจานด่วน จะนำร่องในร้านมิตรธงฟ้าก่อน ซึ่งในการประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็นโครงการพันธมิตรธงฟ้า ที่มีสมาคมภัตตาคารไทย และผู้ประกอบการร้านอาหารมิตรธงฟ้าจากทั่วประเทศ ได้ขอให้สมาคมฯและผู้ประกอบการระดมความคิดเห็นที่จะกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วนให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่หากไม่ความร่วมมือ กรมก็พร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปกำหนดราคาแนะนำอาหารจานด่วนได้ ซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะดำเนินการ