ช.การช่าง ฮุบสัญญาก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ อีกสาย หลัง รฟม.เปิดซองเสนอต่ำสุด 1.41 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางแค่ 20 ล้านบาท เฉือน “ ซิโน-ไทย และ อิตัลฯ” 2 ยักษ์รับเหมา คาดเซ็นสัญญาได้ใน ส.ค.นี้ ส่วนงานวางราคามูลค่า 2,500 ล้านบาท อีก 2-3 เดือน เปิดประมูลได้
วานนี้ (16 มิ.ย.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคา (ซองที่ 3 ) ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางประมาณ 12.6 กิโลเมตร โดยมีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 ราย ปรากฏว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เสนอราคาต่ำสุดที่ 14,138,500,000 บาท, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เสนอราคา 14,269,000,000 บาท และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เสนอ 14,319,000,000 บาท
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม.ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคา ปรากฏว่า บริษัท ช.การช่าง เสนอราคาต่ำสุด คือ 14,138,500,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดที่ 14,161,286,856 บาท ประมาณ 22,000,000 บาท ส่วนอันดับ 2 คือ บริษัท ซิโน-ไทย เสนอราคา 14,269 ล้านบาท และ อันดับ 3 คือ บริษัท อิตาเลียนไทย เสนอราคา 14,319 ล้านบาท
โดยขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคา จะพิจารณาตรวจสอบและประเมินรายละเอียดข้อเสนอของทุกบริษัท เพื่อหาข้อเสนอราคาที่ประเมินแล้วราคาต่ำสุด พร้อมทั้งเจรจาต่อรองราคา คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.54 นี้ ก่อนสรุปผลการคัดเลือกเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประกวดราคา โดยคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในเดือน ส.ค.2554 นี้
“หลังจากลงนามสัญญาก่อสร้างแล้วผู้รับเหมาสามารถเริ่มลงมือก่อสร้างได้ทันที และตามแผนการดำเนินโครงการสายสีเขียว จะเริ่มประกาศประกวดราคางานสัญญาราง มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาทได้หลังจากนี้ 2-3 เดือน ส่วนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ นั้น คาดว่า ภายใน 2-3 เดือนนี้ จะสามารถประกาศประกวดราคาได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแหล่งเงินกู้นั้น ล่าสุด ได้หารือกับกระทรวงการคลังแล้ว ในขณะที่การบริหารจัดการเพื่อเปิดให้ประชาชนใช้บริการนั้น จะต้องหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง” นายพีระยุทธ กล่าว
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สัญญาที่ 1 เป็นงานก่อสร้างทางวิ่งยกระดับ ระยะทางประมาณ 12.6 กิโลเมตร มีทั้งหมด 7 สถานี ประกอบด้วย งานก่อสร้างสะพานข้ามคลองสำโรง 1 แห่ง งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) 1 แห่ง และอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) 1 แห่ง โดยตั้งเป้าหมายลงนามในสัญญาได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ แต่อาจจะล่าช้าออกไป เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการเลือกตั้ง จึงอาจส่งผลกระทบกับการพิจารณาของ ครม.โดยโครงการดังกล่าวมีกำหนดการก่อสร้าง 4 ปี
วานนี้ (16 มิ.ย.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคา (ซองที่ 3 ) ในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางประมาณ 12.6 กิโลเมตร โดยมีผู้ยื่นข้อเสนอ 3 ราย ปรากฏว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เสนอราคาต่ำสุดที่ 14,138,500,000 บาท, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เสนอราคา 14,269,000,000 บาท และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เสนอ 14,319,000,000 บาท
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ รฟม.ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธาสัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เปิดเผยว่า คณะกรรมการได้เปิดซองข้อเสนอด้านราคา ปรากฏว่า บริษัท ช.การช่าง เสนอราคาต่ำสุด คือ 14,138,500,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดที่ 14,161,286,856 บาท ประมาณ 22,000,000 บาท ส่วนอันดับ 2 คือ บริษัท ซิโน-ไทย เสนอราคา 14,269 ล้านบาท และ อันดับ 3 คือ บริษัท อิตาเลียนไทย เสนอราคา 14,319 ล้านบาท
โดยขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการพิจารณาข้อเสนอการประกวดราคา จะพิจารณาตรวจสอบและประเมินรายละเอียดข้อเสนอของทุกบริษัท เพื่อหาข้อเสนอราคาที่ประเมินแล้วราคาต่ำสุด พร้อมทั้งเจรจาต่อรองราคา คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.54 นี้ ก่อนสรุปผลการคัดเลือกเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ที่มี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการประกวดราคา โดยคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในเดือน ส.ค.2554 นี้
“หลังจากลงนามสัญญาก่อสร้างแล้วผู้รับเหมาสามารถเริ่มลงมือก่อสร้างได้ทันที และตามแผนการดำเนินโครงการสายสีเขียว จะเริ่มประกาศประกวดราคางานสัญญาราง มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาทได้หลังจากนี้ 2-3 เดือน ส่วนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ นั้น คาดว่า ภายใน 2-3 เดือนนี้ จะสามารถประกาศประกวดราคาได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแหล่งเงินกู้นั้น ล่าสุด ได้หารือกับกระทรวงการคลังแล้ว ในขณะที่การบริหารจัดการเพื่อเปิดให้ประชาชนใช้บริการนั้น จะต้องหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง” นายพีระยุทธ กล่าว
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สัญญาที่ 1 เป็นงานก่อสร้างทางวิ่งยกระดับ ระยะทางประมาณ 12.6 กิโลเมตร มีทั้งหมด 7 สถานี ประกอบด้วย งานก่อสร้างสะพานข้ามคลองสำโรง 1 แห่ง งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง (Depot) 1 แห่ง และอาคารจอดแล้วจร (Park & Ride) 1 แห่ง โดยตั้งเป้าหมายลงนามในสัญญาได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ แต่อาจจะล่าช้าออกไป เนื่องจากขณะนี้อยู่ในระหว่างการเลือกตั้ง จึงอาจส่งผลกระทบกับการพิจารณาของ ครม.โดยโครงการดังกล่าวมีกำหนดการก่อสร้าง 4 ปี
