อุตฯ อาหารของไทย มีลุ้นขยายตลาดอียู หลังเชื้ออี.โคไล ระบาด คาดแนวโน้มผักผลไม้ไทยกลับไปส่งออกได้อีกครั้ง เพราะถูกเบรกส่งออกตั้งแต่ต้นปี สูญรายได้กว่า 3 พันล้าน คาดแนวโน้มปีนี้ ส่งออกอาหารผักผลไม้โกยรายได้ส่งออกไม่ต่ำกว่า 8.55 แสนล้าน
นายวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คำสั่งซื้อของอุตสาหกรรมอาหารได้รับผลดีจากเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่น ส่งผลให้การส่งออกอาหารไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่าปกติ 10% และคาดว่าจะได้รับผลดีจากตรวจพบเชื้ออีโคไลในผักและผลไม้ที่ปลูกในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนีและสเปน
โดยผู้ส่งออกหวังว่า จากการตรวจพบเชื้ออี.โคไล ดังกล่าว จะทำให้อียูเริ่มนำเข้าผักจากไทยเพื่อทดแทนผักที่ผลิตในอียู หลังที่ผ่านมาไทยได้รับผลกระทบจากการห้ามส่งออกผักไทยไปอียู ซึ่งคาดว่าเสียหายไปแล้วประมาณ 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ไปอียูรวม 6,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องระวังสำหรับไทย คือ ผักและผลไม้จากยุโรปจะไหลเข้ามายังประเทศในแถบเอเชีย หลังจากในแถบยุโรปเข้มงวดและระวังการบริโภค เพราะกลัวเชื้ออีโคไล ดังนั้นหน่วยงานที่ตรวจสอบของไทยต้องทำงานให้มากขึ้น ล่าสุด พบเชื้อในอโวคาโคที่ส่งมาจากสเปนแล้ว โดยสเปนถือเป็นแหล่งปลูกพืชผักผลไม้แหล่งใหญ่ที่สุดในอียู
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในภาพรวมประมาณ 10% โดยภาพรวมขณะนี้อาจจะสูงกว่าภาพรวมที่เคยประเมินไว้ครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือน เมษายน 2554 ซึ่งทาง ส.อ.ท.ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สถาบันอาหาร ประเมินไว้ว่าในปีนี้อุตสาหกรรมอาหารจะมีการส่งออก 855,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5%