ฮอตไลน์ 1569 สายไหม้ 4 เดือนคนแห่ร้องเรียนสินค้าแพง 1,248 ราย โดยน้ำมันปาล์มถูกร้องมากสุด ตามด้วยน้ำตาลทราย หมู ไข่ไก่ และ ปุ๋ยเคมี จับกุมดำเนินคดีได้ 44 ราย ปรับจิ๊บๆ 6.8 หมื่นบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในช่วง 4 เดือนปี 2554 (ม.ค.-เม.ย.) มีประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามายังสายด่วนแม่บ้าน 1569 สูงถึง 3,214 ราย แยกเป็นการร้องเรียนราคาสินค้าจำนวน 1,248 ราย และขอคำแนะนำในเรื่องต่างๆ จำนวน 1,966 ราย ซึ่งเป็นการร้องเรียนที่เพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านมาแค่ 4 เดือน โดยเมื่อเทียบกับปี 2553 ทั้งปี มีการร้องเรียนรวมทั้งสิ้น 4,488 ราย เป็นการร้องเรียนราคาสินค้า 1,703 ราย และขอคำแนะนำ 2,785 ราย
สำหรับการร้องเรียนส่วนใหญ่ เป็นการร้องเรียนในเรื่องสินค้ามีราคาแพง ไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่ายสินค้าเกินราคาที่กำหนด โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มมีการร้องเรียนมากที่สุด รองลงมา คือ หมวดการเกษตรและปัจจัยการเกษตร และหมวดของใช้ประจำวัน
ทั้งนี้ รายละเอียดสินค้าที่ประชาชนร้องเรียนมากตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนเม.ย. เริ่มจากน้ำมันปาล์ม ประชาชนได้มีการร้องเรียนว่าราคาแพงและขาดแคลน หาซื้อไม่ได้ หรือซื้อได้ก็มีราคาแพง และต้องเข้าคิวซื้อ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และยังมีการร้องเรียนกรณีร้านอาหารตามสั่ง ได้ปรับขึ้นราคาค่าอาหาร โดยอ้างว่าน้ำมันปาล์มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มีการร้องเรียนในเรื่องน้ำตาลทรายแพงและหาซื้อได้ยาก โดยในห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก ไม่มีวางจำหน่าย หรือหากมีวางจำหน่าย ก็จะเป็นในลักษณะจำกัดการซื้อต่อครอบครัว ส่วนในตลาดสด ร้านค้าปลีกรายย่อย ได้จำหน่ายเกินกว่าราคาควบคุม 23.50 บาท โดยจำหน่ายในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 26-30 บาท
ถัดมา เป็นการร้องเรียนเรื่องเนื้อหมูมีราคาแพง โดยราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 110-120 บาท เป็น 140-150 บาท และเคยปรับขึ้นสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 180 บาท ทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น และหมูแพงยังเป็นสาเหตุทำให้ร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกง และรายก๋วยเตี๋ยว ได้ใช้โอกาสนี้ในการปรับเพิ่มราคาจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องไข่ไก่ที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนไม่สามารถหาซื้อไข่ไก่ได้โดยง่าย หรือหาซื้อได้ก็มีราคาแพงกว่าปกติ
ส่วนในกลุ่มสินค้าเกษตร ส่วนใหญ่เกษตรกรได้ร้องเรียน ว่า ผู้ผลิตมีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืชเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคา ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รับการร้องเรียน กรมการค้าภายในได้ดำเนินการออกไปตรวจสอบและมีการจับกุมและดำเนินคดีรวม 44 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 65,800 บาท โดยแยกเป็นแผงลอย 25 ราย ร้านค้า 13 ราย และนิติบุคคล 6 ราย โดยข้อหาที่ตรวจสอบพบ คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งมีทั้งอาหารปรุงสำเร็จ เครื่องดื่ม น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยาแผนปัจจุบัน รวมทั้งจำหน่ายไม่ตรงกับที่ติดราคาไว้
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในช่วง 4 เดือนปี 2554 (ม.ค.-เม.ย.) มีประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามายังสายด่วนแม่บ้าน 1569 สูงถึง 3,214 ราย แยกเป็นการร้องเรียนราคาสินค้าจำนวน 1,248 ราย และขอคำแนะนำในเรื่องต่างๆ จำนวน 1,966 ราย ซึ่งเป็นการร้องเรียนที่เพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านมาแค่ 4 เดือน โดยเมื่อเทียบกับปี 2553 ทั้งปี มีการร้องเรียนรวมทั้งสิ้น 4,488 ราย เป็นการร้องเรียนราคาสินค้า 1,703 ราย และขอคำแนะนำ 2,785 ราย
สำหรับการร้องเรียนส่วนใหญ่ เป็นการร้องเรียนในเรื่องสินค้ามีราคาแพง ไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่ายสินค้าเกินราคาที่กำหนด โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่มมีการร้องเรียนมากที่สุด รองลงมา คือ หมวดการเกษตรและปัจจัยการเกษตร และหมวดของใช้ประจำวัน
ทั้งนี้ รายละเอียดสินค้าที่ประชาชนร้องเรียนมากตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงเดือนเม.ย. เริ่มจากน้ำมันปาล์ม ประชาชนได้มีการร้องเรียนว่าราคาแพงและขาดแคลน หาซื้อไม่ได้ หรือซื้อได้ก็มีราคาแพง และต้องเข้าคิวซื้อ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และยังมีการร้องเรียนกรณีร้านอาหารตามสั่ง ได้ปรับขึ้นราคาค่าอาหาร โดยอ้างว่าน้ำมันปาล์มสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน ได้มีการร้องเรียนในเรื่องน้ำตาลทรายแพงและหาซื้อได้ยาก โดยในห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก ไม่มีวางจำหน่าย หรือหากมีวางจำหน่าย ก็จะเป็นในลักษณะจำกัดการซื้อต่อครอบครัว ส่วนในตลาดสด ร้านค้าปลีกรายย่อย ได้จำหน่ายเกินกว่าราคาควบคุม 23.50 บาท โดยจำหน่ายในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 26-30 บาท
ถัดมา เป็นการร้องเรียนเรื่องเนื้อหมูมีราคาแพง โดยราคาได้ปรับเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 110-120 บาท เป็น 140-150 บาท และเคยปรับขึ้นสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 180 บาท ทำให้ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น และหมูแพงยังเป็นสาเหตุทำให้ร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกง และรายก๋วยเตี๋ยว ได้ใช้โอกาสนี้ในการปรับเพิ่มราคาจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องไข่ไก่ที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนไม่สามารถหาซื้อไข่ไก่ได้โดยง่าย หรือหาซื้อได้ก็มีราคาแพงกว่าปกติ
ส่วนในกลุ่มสินค้าเกษตร ส่วนใหญ่เกษตรกรได้ร้องเรียน ว่า ผู้ผลิตมีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืชเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคา ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รับการร้องเรียน กรมการค้าภายในได้ดำเนินการออกไปตรวจสอบและมีการจับกุมและดำเนินคดีรวม 44 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 65,800 บาท โดยแยกเป็นแผงลอย 25 ราย ร้านค้า 13 ราย และนิติบุคคล 6 ราย โดยข้อหาที่ตรวจสอบพบ คือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งมีทั้งอาหารปรุงสำเร็จ เครื่องดื่ม น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยาแผนปัจจุบัน รวมทั้งจำหน่ายไม่ตรงกับที่ติดราคาไว้