ASTVผู้จัดการรายวัน-ระดับรมว.“พาณิชย์”คิดได้!! ทำอีกแล้ว "ปุ๋ยธงฟ้า" แสนตันช่วยเกษตรกร แถมที่เหลือขอใช้งบคชก.อุ้มอีก 300 ล้าน กดราคาปุ๋ย รอเวลารัฐบาลไฟเขียวเอกชนขึ้นราคา “พรทิวา”เล็งชงครม.จัดมหกรรมลดค่าครองชีพคนไทยทั้งประเทศ ขนสินค้าราคาถูกขายถึงที่ 3 เดือน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องปุ๋ย ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมชาวนาไทย และสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย มาหารือเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี วานนี้ (11 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปให้จัดหาปุ๋ยราคาถูกจำนวน 1 แสนตันสูตร 46-0-0 มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูการเพาะปลูกที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ในราคาตันละ 11,000 บาท หรือถุง (50 กก.) ละ 550 บาท โดยสมาคมฯ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ได้เตรียมแผนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อนุมัติวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการอุดหนุนราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร ในส่วนที่เกินจาก 1 แสนตัน เพื่อให้เกษตรกรยังสามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคา 11,000 บาท พร้อมกับช่วยเชื่อมโยงการจำหน่ายปุ๋ยจากโรงงานถึงกลุ่มสหกรณ์ และเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้สามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคาต้นทุน
นอกจากนี้ จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาสั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พิจารณาปล่อยสินเชื่อซื้อปุ๋ย โดยคิดดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม รวมทั้งการรณรงค์ให้เกษตรกรใช้ยาปราบศัตรูพืชอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันเงินรั่วไหล
นางพรทิวากล่าวว่า ในการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เห็นด้วยในแนวคิดการจัดงาน“มหกรรมลดค่าครองชีพคนไทย” ของกระทรวงพาณิชย์ โดยขณะนี้ได้ให้กรมการค้าภายในจัดทำรายละเอียดและงบประมาณที่จะใช้ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ดีและเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะช่วยดูแลค่าครองชีพให้กับประเทศชนทั้งประเทศ ที่ในหลายๆ พื้นที่ประสงปัญหาจากภัยธรรมชาติ
“นายกฯ เห็นด้วย เพราะตรงและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็จะเน้นการจัดงานโดยจัดหาสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ในชีวิตประจำวันทั้งของกิน ของใช้ วัสดุก่อสร้าง สินค้าปัจจัยเพื่อการเกษตร และอื่นๆ ที่ถูกกว่าท้องตลาด 20-30% โดยจะจัดงานต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนนี้ หากได้รับการตอบรับและประชาชนต้องการก็จะขยายเป็น 6 เดือน”นางพรทิวากล่าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาเป็นมาตรการที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรตามที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วง และขอให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูแล ส่วนแรกจะมีปุ๋ยราคาถูก 1 แสนตันมาขายให้ ส่วนที่เหลือก็จะเข้าไปอุดหนุน โดยในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ จะมีความต้องการใช้ปุ๋ยประมาณเดือนละ 4 แสนตัน คิดว่าน่าจะดูแลได้ ซึ่งก็หวังว่ารัฐบาลจะสบายใจว่าเกษตรกรจะไม่ได้รับความเดือดร้อน
“ท่านนายกฯ ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นหัวหน้าพาณิชย์ ขอให้ชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยออกไปก่อน และขอให้ไปพิจารณามาตรการดูแลเกษตรกร เราก็ชะลอ และหามาตรการดูแลออกมาแล้ว ก็จะนำเสนอกลับไปให้รัฐบาลพิจารณา เมื่อรัฐบาลสบายใจ ก็ต้องให้ผู้ผลิตปรับขึ้นราคา เพราะเป็นกระบวนการที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยมาแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ปรับเมื่อไร ก็ต้องฟังรัฐบาลก่อน”นายยรรยงกล่าว
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ช่วยเหลือเกษตรกอย่างเต็มที่ และช่วยมาแล้วกว่า 7 เดือน ขายขาดทุนตันละ 2 พันบาท ไม่รู้เป็นเงินเท่าไรแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะสบายใจเมื่อไร แต่ที่รู้ผู้ผลิตหมองใจ เพราะหากไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา ต่อไปก็จะมีปัญหาเรื่องปุ๋ยขาดแคลน โดยขณะนี้ราคาวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยปรับแพงขึ้นมาก คงไม่มีผู้ผลิตรายใดยอมนำเข้ามาแล้วผลิตขาดทุน
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องปุ๋ย ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมชาวนาไทย และสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย มาหารือเพื่อหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี วานนี้ (11 เม.ย.) ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปให้จัดหาปุ๋ยราคาถูกจำนวน 1 แสนตันสูตร 46-0-0 มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรในช่วงฤดูการเพาะปลูกที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ ในราคาตันละ 11,000 บาท หรือถุง (50 กก.) ละ 550 บาท โดยสมาคมฯ ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ได้เตรียมแผนเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อนุมัติวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อใช้ในการอุดหนุนราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกร ในส่วนที่เกินจาก 1 แสนตัน เพื่อให้เกษตรกรยังสามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคา 11,000 บาท พร้อมกับช่วยเชื่อมโยงการจำหน่ายปุ๋ยจากโรงงานถึงกลุ่มสหกรณ์ และเกษตรกรโดยตรง เพื่อให้สามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคาต้นทุน
นอกจากนี้ จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาสั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พิจารณาปล่อยสินเชื่อซื้อปุ๋ย โดยคิดดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการจำหน่ายปุ๋ยเคมีปลอม รวมทั้งการรณรงค์ให้เกษตรกรใช้ยาปราบศัตรูพืชอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันเงินรั่วไหล
นางพรทิวากล่าวว่า ในการช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เห็นด้วยในแนวคิดการจัดงาน“มหกรรมลดค่าครองชีพคนไทย” ของกระทรวงพาณิชย์ โดยขณะนี้ได้ให้กรมการค้าภายในจัดทำรายละเอียดและงบประมาณที่จะใช้ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการที่ดีและเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะช่วยดูแลค่าครองชีพให้กับประเทศชนทั้งประเทศ ที่ในหลายๆ พื้นที่ประสงปัญหาจากภัยธรรมชาติ
“นายกฯ เห็นด้วย เพราะตรงและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็จะเน้นการจัดงานโดยจัดหาสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ในชีวิตประจำวันทั้งของกิน ของใช้ วัสดุก่อสร้าง สินค้าปัจจัยเพื่อการเกษตร และอื่นๆ ที่ถูกกว่าท้องตลาด 20-30% โดยจะจัดงานต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนนี้ หากได้รับการตอบรับและประชาชนต้องการก็จะขยายเป็น 6 เดือน”นางพรทิวากล่าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาเป็นมาตรการที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรตามที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วง และขอให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูแล ส่วนแรกจะมีปุ๋ยราคาถูก 1 แสนตันมาขายให้ ส่วนที่เหลือก็จะเข้าไปอุดหนุน โดยในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้ จะมีความต้องการใช้ปุ๋ยประมาณเดือนละ 4 แสนตัน คิดว่าน่าจะดูแลได้ ซึ่งก็หวังว่ารัฐบาลจะสบายใจว่าเกษตรกรจะไม่ได้รับความเดือดร้อน
“ท่านนายกฯ ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นหัวหน้าพาณิชย์ ขอให้ชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยออกไปก่อน และขอให้ไปพิจารณามาตรการดูแลเกษตรกร เราก็ชะลอ และหามาตรการดูแลออกมาแล้ว ก็จะนำเสนอกลับไปให้รัฐบาลพิจารณา เมื่อรัฐบาลสบายใจ ก็ต้องให้ผู้ผลิตปรับขึ้นราคา เพราะเป็นกระบวนการที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยมาแล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ปรับเมื่อไร ก็ต้องฟังรัฐบาลก่อน”นายยรรยงกล่าว
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ช่วยเหลือเกษตรกอย่างเต็มที่ และช่วยมาแล้วกว่า 7 เดือน ขายขาดทุนตันละ 2 พันบาท ไม่รู้เป็นเงินเท่าไรแล้ว และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะสบายใจเมื่อไร แต่ที่รู้ผู้ผลิตหมองใจ เพราะหากไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา ต่อไปก็จะมีปัญหาเรื่องปุ๋ยขาดแคลน โดยขณะนี้ราคาวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยปรับแพงขึ้นมาก คงไม่มีผู้ผลิตรายใดยอมนำเข้ามาแล้วผลิตขาดทุน
