xs
xsm
sm
md
lg

“ซีเอ็ด” ปูทางสมาร์ทโฟน-อีบุ๊ก ปรับเว็บไซต์ดันรายได้ 5.5 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ซีเอ็ด” ปรับทัพรับเทคโนโลยี ปูทางสมาร์ทโฟน เพิ่มช่องทางขายหนังสือ พร้อมผุดสาขาเพิ่ม 35 แห่งปีนี้ เน้นกำไร เพิ่มสัดส่วนสินค้านอนบุ๊ก 30% ขยายสาขาแบบเลิร์นนิงเซ็นเตอร์

นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ให้กับหนังสือและสินค้าของซีเอ็ด เพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งที่ผ่านมา มีช่องทางร้านซีเอ็ด ประมาณ 389 สาขา การซื้อขายผ่านเว็บไซต์ และอยู่ระหว่างการจัดเตรียมและลงทุนทางด้านช่องทางผ่านสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และการทำอี-แมกกาซีน อี-บุ๊ก โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ คาดว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ และมั่นใจว่า ภายใน 2 ปีจากนี้ช่องทางใหม่ๆ อย่างนิวมีเดีย จะสร้างรายได้และกำไรเป็นนัยที่สำคัญมาก แม้ว่าปัจจุบันนี้ช่องทางผ่านออนไลน์จะมีเพียงสัดส่วน 1% ของรายได้รวมก็ตาม

ขณะเดียวกัน ในส่วนของซีเอ็ดเลิร์นนิงเซ็นเตอร์ วางแผนไว้ภายใน 3 ปีจากนี้ จะเปิดสาขาให้ครบ 30 แห่ง จากปัจจุบันมีเพียง 1 แห่งเท่านั้น คือ ที่จามจุรีสแควร์ และจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และกำไรเป็นนัยสำคัญอีกเช่นกัน

“ทั้ง 2 โครงการต้นนั้น หากเสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานแล้ว ผมว่า กำไรจากซีเอ็ดจะมาจาก 2 ส่วนนี้มากถึง 30-50% ในอนาคต ซีเอ็ดเองสนใจตัวเลขกำไรมากกว่า ตัวเลขรายได้ ซึ่งปีที่แล้วซีเอ็ดกำไรประมาณ 270 ล้านบาท”

สำหรับแผนธุรกิจขยายสาขาของซีเอ็ดปีนี้ นายทนง กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ทุกรูปแบบรวมกัน 35 สาขา โดยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้เปิดไปแล้ว 10 กว่าสาขาใหม่ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เปิดใหม่เพียง 25 สาขาเท่านั้น โดยใช้งบลงทุนเปิดเฉลี่ย 1-1.5 ล้านบาทต่อสาขา พื้นที่เฉลี่ย 200 ตารางเมตร

เนื่องจากปีนี้มองเห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดี อีกทั้งศูนย์การค้าใหม่ๆ จะเปิดมากขึ้นหลังอั้นมาจากปีที่แล้วจำนวนมาก ทำให้มีพื้นที่ในการเปิดร้านซีเอ็ดมากขึ้น ล่าสุด เปิดที่ศูนยการค้าทีสแควร์ คาดเปิดตุลาคมปีนี้ อีกทั้งธุรกิจหนังสือก็ยังไปได้ดีอยู่ แม้จะไม่หวือหวาก็ตาม โดยกลุ่มที่ขายดียังเป็นพวกวัยรุ่น กวดวิชา ที่เติบโตมาก

ประกอบกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเอง ช่วงไตรมาสแรกส่วนใหญ่จะมีรายได้เติบโตกันมากกว่า 5% ทั้งสิ้น ขณะที่ซีเอ็ดเองไตรมาสแรกเติบโต 2 หลัก ซึ่งรายได้จากร้านเดิมเติบโต 4% และมียอดการซื้อหนังสือเฉลี่ย 168 บาทต่อปก

บริษัทยังมีแผนการปรับสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้า โดยภายในช่วง 2 ปีจากนี้ ตั้งเป้าหมายรายได้จากหนังสือเป็นสัดส่วน 70% จากปัจจุบัน 85% และรายได้จากสินค้าอื่นที่ไม่ใช่หนังสือ เป็น 30% จากปัจจุบันมี 15% จากรายได้รวม โดกลุ่มที่ไม่ใช่หนังสือมีการเติบโต 20% ทุกปี เช่นสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี เครื่องบันทึกเสียง กัดเจ็ทอุปกรณ์ไอทีต่างๆ หูฟัง กระเป๋าเอกสาร เครื่องเขียน เป็นต้น

รวมทั้งการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ และปรับปรุงเว๊บไซต์ใหม่คาดอีก 3 เดือนแล้วเสร็จ เพื่อ่ให้การจำหน่ายสินค้าและการบริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าปีนี้บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตรายได้ประมาณ 10-15% หรือ 5,500 ล้านบาท จากรายได้ปีที่แล้วที่มีประมาณ 5,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น