ครม.ไฟเขียวโครงการกู้ซื้อบ้านหลังแรก ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 2 ปี วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ผ่านแบงก์ ธอส.หลังละไม่เกิน 3 ล้านบาท พร้อมอนุมัติงบเยียวยาช่วงม็อบแดง 200 ล้านบาท ซ่อมเทศบาลเมืองอุดร ค่าทำขวัญบีทีเอส 5.5 ล้านบาท และขยายวงเงินสินเชื่อให้ผู้ค้าราชประสงค์ 15 ล้านบาท “ปณิธาน” ปัดใช้งบกลางปี 54 แสนล้านบาท ยันใช้เพียง 733 ล้านบาท เท่านั้น
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติกรอบวงเงินกู้สำหรับโครงการบ้านหลังแรกที่จะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ไปปล่อยกู้ในวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี โดย ครม.เห็นว่า ความต้องการของประชาชนเพิ่มขึ้น และต้องการให้โครงการคืบหน้าไปได้ในช่วงนี้ จึงได้อนุมัติงบประมาณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายปณิธาน ปฏิเสธว่า ครม.ไม่ได้มีวาระที่จะอนุมัติงบประมาณนับแสนล้านตามที่เป็นข่าว แต่จะพิจารณาไปเรื่อยๆ และมีช่วงพักในเวลาประมาณ 17.00 น.ก่อนจะกลับมาประชุมอีกครั้งในเวลา 18.00 น.
นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติโครงการบ้านหลังแรก รวมถึงให้ภาครัฐชดเชยภาระดอกเบี้ยหรือสนับสนุน 450-500 ล้านบาท
สำหรับคุณสมบัติผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ต้องเป็นผู้ที่ต้องการมีบ้านหลักแรก และวงเงินกู้ต่อคนไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อไม่ให้กระทบต่อธนาคารอื่นๆ ครม.จึงเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังว่าคุณสมบัติของผู้กู้ต้องไม่ใช่ลักษณะการรีไฟแนนซ์ และมีการคาดการณ์ว่า หากมีการปล่อยกู้เต็มวงเงินภายใน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ ครม.ได้พิจารณาวาระการประชุมไปแล้วประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งมีวาระอยู่ประมาณ 120 เรื่องไม่รวมวาระจร โดยเบื้องต้นได้อนุมัติงบกลางประมาณ 733 ล้านบาท นำไปใช้ในหลายโครงการ เช่น การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการพิจารณาจัดตั้งบสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับเจ้าภาพ และให้มีการพิจารณาแนวทางการป้องกันภัยพิบัติให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละพื้นที่
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ ยังมีมติอนุมัติมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา 3 ส่วน คือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ในส่วนของเงินค่าเสียหาย 5.5 ล้านบาท แต่สำหรับค่าเสียโอกาสยังไม่อนุมัติ จากที่ทางบริษัทร้องขอมาเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท โดยครม.ให้ไปหารือกับเจ้าของสัมปทานให้ได้ข้อยุติก่อน
นอกจากนั้น ยังอนุมัติเงิน 200 ล้านบาท ให้เทศบาลเมือง จ.อุดรธานี ไปใช้ในการซ่อมสร้างอาคาร และระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งขยายวงเงินสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ จาก 5 ล้านบาท เป็น 15 ล้านบาท และเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
