เตรียมแปลงร่างสนามบินดอนเมือง “จ้อน” ควงนักธุรกิจช็อปทำเลทอง

"พาณิชย์" เล็งปรับใช้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์แสดงสินค้าเอสเอ็มอี “อลงกรณ์” ควงสมาคมธุรกิจใหญ่ลงพื้นที่ตรวจสถานที่จริง ก่อนกำหนดแผนธุรกิจ ลั่นไม่ห่วงการเมืองทำโครงการสะดุด พร้อมประกาศเดินหน้าผลักดันให้เป็นศูนย์ค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่ เพื่อรองรับประชาคม ศก.อาเซียน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมผู้แทนภาคเอกชน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมการค้า ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของประเทศ เข้าร่วมหารือการใช้สถานที่อาคารของสนามบินดอนเมือง ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พร้อมลงพื้นที่สำรวจสถานที่จริงตามโครงการนำอาคารสนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์แสดงสินค้าสำหรับธุรกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) ก่อนนำข้อมูลไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือการกำหนดรูปแบบธุรกิจ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือแนวทางการใช้พื้นที่ของการท่าอากาศยานฯที่มีอยู่แล้ว จากพื้นที่อาคารคลังสินค้า 4 หลัง ขนาดหลังละ 2,500 ตารางเมตร กับปริมาณเอสเอ็มอีที่จะร่วมโครงการ โดยพบว่า ยอดเอสเอ็มที่สนใจร่วมโครงการล่าสุด มีเอสเอ็มอีกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนจำนวน 1,000 ราย รวมถึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ (Logistic) ได้แสดงความสนใจในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย สมาคมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สมาคมชิปปิ้ง สมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศไทย และสมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะมีนักธุรกิจที่เป็นสมาชิกของสมาคมการค้าจากทั่วประเทศ ในหลากหลายสาขาธุรกิจเข้าร่วม โดยเฉพาะสมาคมการค้าในกลุ่มประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นและอัญมณี ซึ่งมีจำนวนกว่า 30 สมาคม กลุ่มธุรกิจบริการ 184 สมาคม และธุรกิจการค้าและการค้า 522 สมาคม จากจำนวนสมาคมทั้งสิ้นกว่า 1,000 สมาคมทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับขั้นตอนต่อไปจากนี้ จะสรุปรูปแบบ (Model) ธุรกิจที่กำหนดให้เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างเจ้าของพื้นที่ คือ ทอท.เอกชนที่ร่วมาโครงการ ซึ่งแนวทางดำเนินการจะสอดคล้องกับแผนการใช้ประโยชน์พื้นที่นี้ที่ทอท.มีอยู่แล้ว คาดว่าขั้นตอนนี้จะเสร็จสิ้นได้ในเดือนหน้า ก่อนนำข้อมูลทั้งหมดไปดำเนินการให้โครงการเป็นรูปธรรมได้ภายในปี 2556

อย่างไรก็ตาม ไม่ห่วงว่าโครงการนี้จะสะดุดแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะเป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบในระดับนโยบาย จาก นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประการดำเนินการ รวมถึงโครงการนี้เป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้หลังไทยและอาเซียนจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยนี้จะเป็นศูนย์ค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่ของไทยจะสร้างให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scales) ที่มีความหลากหลาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้ซื้อ และกลุ่มตัวแทนผู้ซื้อขาย (Buying Agents) จากทั่วโลก

นายอลงกรณ์ กล่าวเสริมว่า ตามเป้าหมายโครงการกำหนดให้อาคารสนามบินดอนเมือง เป็นศูนย์ค้าส่ง-ค้าปลีก ขนาดใหญ่ของประเทศ ศูนย์ดังกล่าวยังสามารถสร้างธุรกิจต่อเนื่องได้อีกมาก ที่สำคัญ คือ การสร้างศูนย์แสดงสินค้า (Exhibition Hall) และศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการ (Conventional Hall) เพื่อแสดงสินค้าและจัดงานแสดงสินค้าให้คนจากทั่วโลกเข้าเยี่ยมชมได้ เป็นสำนักงานตัวแทนซื้อขาย (Buying Agents) และคลังสินค้า (Cargo)

ปัจจุบันธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยมีจำนวน 2.9 ล้านราย คิดเป็น 99.84% ของวิสาหกิจ ทั้งประเทศ สร้างมูลค่าในระบบเศรษฐกิจกว่า 3.42 ล้านล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออก 1.7 ล้านล้านบาท มีการจ้างงาน 12.6 ล้านคน ซึ่งสมาคมการค้าที่เข้าร่วมประชุม อาทิ สมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทนไทย สมาคมธุรกิจไม้ สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย สมาพันธ์ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์