ส.ว.ขอนแก่น แฉกระบวนการปั่นราคาน้ำตาลให้สูงเกินจริง พบเบาะแส โรงงานน้ำตาลร่วมมือกับยี่ปั๊วกักตุน ทั้งยังมี “นักการเมืองใหญ่” ร่วมด้วย เตือนอย่าปล่อยปัญหาน้ำตาลขาดแคลนจนกลายเป็นน้ำตาประชาชน แนะกระทรวงที่เกี่ยวข้องจับเข่าคุยแก้ปัญหาจริงจัง ถามนายกฯ กล้าลุย “มาเฟีย” อ้อยและน้ำตาลหรือไม่
นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา กล่าวถึงปัญหาน้ำตาลทรายขาดแคลนและราคาแพงว่า เกิดจากโรงงานน้ำตาลไม่ยอมระบายน้ำตาลออกมา โดยอ้างต้นทุนการผลิตชนิดถุงละ 1 กิโลกรัม สูงกว่าที่กระทรวงพาณิชย์ควบคุม อีกทั้งราคาในต่างประเทศก็สูงกว่าร้อยละ 25 จึงเกิดการลักลอบส่งออกตามแนวชายแดน และโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ ได้หันมาแย่งใช้โควตาเพื่อการบริโภคภายในประเทศ (โควต้า ก.) มากขึ้น อีกทั้งโรงงานน้ำตาลทรายและยี่ปั๊วที่หวังผลประโยชน์ก็แจ้งสถานที่จัดส่งเป็นเท็จ
“มีการใช้โควตาแบบเด็กเส้น หรือเป็นนอมินีกับโรงงานน้ำตาลด้วยกันนำไปกักตุน หรือเรียกค่าหัวคิวแลกกับโควตาน้ำตาล จนทำให้ต้นทุนน้ำตาลสูงเกินจริง ทั้งที่การขนย้ายน้ำตาลต้องมีใบอนุญาตขนย้ายจากสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม แต่กระทรวงอุตสาหกรรมกลับไม่ชี้แจงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เหมือนมีนักการเมืองใหญ่ หรือมือที่มองไม่เห็นคอยปั่นราคาอยู่ ซึ่งผลประโยชน์จะตกกับโรงงานผลิตน้ำตาลทรายรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย ทำให้สามารถชี้เป็นชี้ตาย กำหนดทิศทางตลาด ปริมาณ และราคาในประเทศได้”
นายประเสริฐ กล่าวว่า แนวโน้มอ้อยจะเป็นพืชพลังงาน เหมือนต้นปาล์ม โดยวัตถุดิบในการผลิตน้ำตาลจะลดลง ขณะที่ประชากรมากขึ้น ทำให้การบริโภคน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น ราคาก็แพงขึ้น ถึงเวลาที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอ้อยและน้ำตาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ต้องมาจับเข่าคุยกัน เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
“อย่าปล่อยให้น้ำตาลกลายเป็นน้ำตาของประชาชนเช่นเดียวกับน้ำมันปาล์มอีก ขอเรียกร้องให้รัฐเร่งดำเนินการอย่างเข้มงวดเอาผิดกับผู้ที่หาผลประโยชน์จากกระบวนการบริหารจัดการน้ำตาลทราย และต้องถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า กล้าลุยมาเฟียอ้อยและน้ำตาลหรือไม่” นายประเสริฐ กล่าวสรุป