บอร์ด ททท.ไฟเขียว หลัง พ.ค.นี้เริ่มทำตลาดญี่ปุ่น หลังหยุดพักนาน 2 เดือน เสนอแผน จัด “โดเนชัน ทัวร์” จูงใจ เที่ยวแบบได้บริจาค คุยภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 เดือนแรกปีนี้ ยังโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ยันจัดกิจกรรม “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” 13 พื้นที่ ด้วยงบ 30 ล้านบาท คาดเงินสะพัด 2 พันล้านบาท
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) เห็นชอบตามที่ ด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และ แปซิฟิกใต้ นำเสนอให้เริ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในตลาดญี่ปุ่น ภายหลัง โกลเด้นวีค คือ เดือน พ.ค.54 เป็นต้นไป หลังจากที่หยุดดำเนินกิจกรรมการตลาดราว 2 เดือน หลังเกิดภัยพิบัติสึนามิในประเทศญี่ปุ่นช่วงแรกจัดเป็นซอฟต์เซลล์ จากนั้นใช้เวทีจัดงาน ไทยแลนด์ ทราเวลมาร์ท หรือ ทีทีเอ็ม จัดขึ้นในไทยเดือน มิ.ย.54 นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว เพราะได้เชิญผู้ประกอบการนำเที่ยวจากญี่ปุ่นมาร่วมงานด้วยประมาณ 60 ราย
***ทุ่ม 30 ลบ.จัดมหาสงกรานต์ดึงเงินสะพัด 2 พัน ลบ.***
สำหรับ ททท.ยังดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยง โดยพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งจากตลาดต่างประเทศ และตลาดในประเทศ ให้อยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คาดหวังว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ททท.ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรม สงกรานต์ ตามแผนเดิมที่วางไว้ คือ ใน 13 พื้นที่ รวม 10 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุบลราชธานี ขอนแก่น ภายใต้งบประมาณจัดงานรวม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าร่วมทั้งไทยและต่างประเทศรวม 1.05 ล้านคน เพิ่ม 3% จากปีก่อน แบ่งเป็นคนไทย 9 แสนคน ชาวต่างชาติ 1.5 แสนคน สร้างรายได้รวม 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นจากคนไทย 1.45 พันล้านบาท และต่างชาติ 550 ล้านบาท
***นักท่องเที่ยวเข้าไทยโตต่อเนื่อง***
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-29 มี.ค.54 ที่เดินทางผ่านด่านสนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวน 1,074,369 คน เพิ่มขึ้น 15.73% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ผ่านด่านสนามบิน จ.ภูเก็ต 134,353 คน เพิ่มขึ้น 30.03% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.54) มีจำนวน 3,597,488 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.1% ส่วนตลาดในประเทศ ผลจากอุทกภัย ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ เนื่องจากยังเป็นช่วงเก็บข้อมูล เพราะเหตุการณ์ยังเกิดต่อเนื่องทุกวัน
***ร่วมบริษัทนำเที่ยวจัดโดเนชันทัวร์***
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และ แปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ล่าสุด 3 สำนักงาน ททท.ในประเทศญี่ปุ่น คือ เมืองโตเกียว โอซากา และ ฟูกูโอกะ เตรียมร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น 10 ราย จัดโครงการ Donation Tour หรือ ท่องเที่ยวเพื่อการกุศล โดยจะเป็นโครงการ ที่เปิดตัวหลังเดือน พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย และยังได้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งขณะนี้ ทั้ง 3 สำนักงาน ททท.ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เรื่องเส้นทางที่จะทำแพกเกจทัวร์ และราคา
***ดึงตลาดจีน-เกาหลีชดเชย***
จากเหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น คาดว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นปีนี้ลดลงจากปีก่อน 10% หรือมีจำนวนราว 8.9 แสนคน จากปีก่อนทำได้ 9.8 แสนคน ซึ่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ททท.ก็จะเริ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทันที แต่ทั้งนี้ ก็ได้มองหาตลาดชดเชยด้วย ซึ่งที่มองไว้ คือ ตลาดเกาหลี และ จีน ซึ่งกำหนด 19-21 เม.ย.นี้ เดินสายโรดโชว์ ที่กรุงโซลและเมืองปูซาน นำเสนอเส้นทางเที่ยวทะเล และอีโคทัวริสซึม ในภาคเหนือ ส่วนตลาดจีน เตรียมเจาะตลาดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ในมณฑลทางภาคเหนือ และ ภาคตะวันออก ซึ่งไม่มีเที่ยวบินตรงมาไทย วางเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนมาไทยที่ 1.2 ล้านคน และ เกาหลี 1 ล้านคน
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาค ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกลาง และ อเมริกา ททท.กล่าวว่า ผลจากวิกฤตการเมือง ในตะวันออกกลาง และ แอฟริกา มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจากตลาดอิหร่าน ให้ชะลอการเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่ผลกระทบจากข่าวการรั่วไหลของสารกัมมัตรังสีในประเทศญี่ปุ่น มีผลกระทบต่อตลาดฮันนีมูน ของยุโรปที่มีแผนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่ง ททท.ก็ส่งเสริมชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไทยไม่มีผลกระทบด้านสารกัมมันตรังสีแน่นอน
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) เห็นชอบตามที่ ด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และ แปซิฟิกใต้ นำเสนอให้เริ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในตลาดญี่ปุ่น ภายหลัง โกลเด้นวีค คือ เดือน พ.ค.54 เป็นต้นไป หลังจากที่หยุดดำเนินกิจกรรมการตลาดราว 2 เดือน หลังเกิดภัยพิบัติสึนามิในประเทศญี่ปุ่นช่วงแรกจัดเป็นซอฟต์เซลล์ จากนั้นใช้เวทีจัดงาน ไทยแลนด์ ทราเวลมาร์ท หรือ ทีทีเอ็ม จัดขึ้นในไทยเดือน มิ.ย.54 นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว เพราะได้เชิญผู้ประกอบการนำเที่ยวจากญี่ปุ่นมาร่วมงานด้วยประมาณ 60 ราย
***ทุ่ม 30 ลบ.จัดมหาสงกรานต์ดึงเงินสะพัด 2 พัน ลบ.***
สำหรับ ททท.ยังดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยง โดยพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งจากตลาดต่างประเทศ และตลาดในประเทศ ให้อยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คาดหวังว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง ททท.ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรม สงกรานต์ ตามแผนเดิมที่วางไว้ คือ ใน 13 พื้นที่ รวม 10 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุบลราชธานี ขอนแก่น ภายใต้งบประมาณจัดงานรวม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าร่วมทั้งไทยและต่างประเทศรวม 1.05 ล้านคน เพิ่ม 3% จากปีก่อน แบ่งเป็นคนไทย 9 แสนคน ชาวต่างชาติ 1.5 แสนคน สร้างรายได้รวม 2 พันล้านบาท แบ่งเป็นจากคนไทย 1.45 พันล้านบาท และต่างชาติ 550 ล้านบาท
***นักท่องเที่ยวเข้าไทยโตต่อเนื่อง***
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-29 มี.ค.54 ที่เดินทางผ่านด่านสนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวน 1,074,369 คน เพิ่มขึ้น 15.73% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ผ่านด่านสนามบิน จ.ภูเก็ต 134,353 คน เพิ่มขึ้น 30.03% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.54) มีจำนวน 3,597,488 คน เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.1% ส่วนตลาดในประเทศ ผลจากอุทกภัย ที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ เนื่องจากยังเป็นช่วงเก็บข้อมูล เพราะเหตุการณ์ยังเกิดต่อเนื่องทุกวัน
***ร่วมบริษัทนำเที่ยวจัดโดเนชันทัวร์***
นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย และ แปซิฟิกใต้ กล่าวว่า ล่าสุด 3 สำนักงาน ททท.ในประเทศญี่ปุ่น คือ เมืองโตเกียว โอซากา และ ฟูกูโอกะ เตรียมร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น 10 ราย จัดโครงการ Donation Tour หรือ ท่องเที่ยวเพื่อการกุศล โดยจะเป็นโครงการ ที่เปิดตัวหลังเดือน พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นให้เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย และยังได้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งขณะนี้ ทั้ง 3 สำนักงาน ททท.ในประเทศญี่ปุ่น อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด เรื่องเส้นทางที่จะทำแพกเกจทัวร์ และราคา
***ดึงตลาดจีน-เกาหลีชดเชย***
จากเหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น คาดว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นปีนี้ลดลงจากปีก่อน 10% หรือมีจำนวนราว 8.9 แสนคน จากปีก่อนทำได้ 9.8 แสนคน ซึ่งเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ททท.ก็จะเริ่มกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทันที แต่ทั้งนี้ ก็ได้มองหาตลาดชดเชยด้วย ซึ่งที่มองไว้ คือ ตลาดเกาหลี และ จีน ซึ่งกำหนด 19-21 เม.ย.นี้ เดินสายโรดโชว์ ที่กรุงโซลและเมืองปูซาน นำเสนอเส้นทางเที่ยวทะเล และอีโคทัวริสซึม ในภาคเหนือ ส่วนตลาดจีน เตรียมเจาะตลาดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ในมณฑลทางภาคเหนือ และ ภาคตะวันออก ซึ่งไม่มีเที่ยวบินตรงมาไทย วางเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนมาไทยที่ 1.2 ล้านคน และ เกาหลี 1 ล้านคน
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ ภูมิภาค ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกลาง และ อเมริกา ททท.กล่าวว่า ผลจากวิกฤตการเมือง ในตะวันออกกลาง และ แอฟริกา มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวจากตลาดอิหร่าน ให้ชะลอการเดินทางท่องเที่ยว ขณะที่ผลกระทบจากข่าวการรั่วไหลของสารกัมมัตรังสีในประเทศญี่ปุ่น มีผลกระทบต่อตลาดฮันนีมูน ของยุโรปที่มีแผนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่ง ททท.ก็ส่งเสริมชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไทยไม่มีผลกระทบด้านสารกัมมันตรังสีแน่นอน