เลขาธิการ คปภ.แนะ ปชช.ทำประกันภัย เพื่อรับมือเหตุแผ่นดินไหว และภัยธรรมชาติ ซึ่งเริ่มมีความเสี่ยงสูงขึ้น พร้อมแนะเกษตรกร ใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยง
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เปิดเผยว่าตามที่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่แขวงเมืองพยาค รัฐฉาน สาธารณรัฐสหภาพพม่า ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนของไทย ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคเหนือของไทยได้รับผลกระทบจากแรงสะเทือนดังกล่าว สำนักงาน คปภ.ขอเรียนว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยหลายประเภทที่ให้ความคุ้มครองภัยจากแผ่นดินไหว โดยมีความคุ้มครองหลัก ดังนี้
กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ให้ความความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกทุกชนิด เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภัยน้ำท่วม ภัยลมพายุ ภัยลูกเห็บ ซึ่งไม่ได้ระบุยกเว้นไว้ กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า แรงระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับให้แสงสว่างหรือใช้ในที่อยู่อาศัย หรือภัยเพิ่มเติมอื่นๆ ซึ่ง สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ เช่น กรณีเกิดจากแผ่นดินไหวน้ำท่วม ลมพายุ เป็นต้น
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถที่เอาประกันภัย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยโดยไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก Deductible
ทั้งนี้ หากทรัพย์สินของประชาชนได้รับความเสียหาย จากเหตุการณ์ดังกล่าวขอให้ตรวจสอบความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ท่านซื้อไว้ และรีบแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อสำรวจความเสียหายโดยเร็ว สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หากทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ก็จะได้รับความคุ้มครองตามสัญญาที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
เลขาธิการ คปภ.ขณะนี้ ตนเองได้สั่งการให้สำนักงาน คปภ.ในพื้นที่ภาคเหนือเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นขอให้ประชาชนตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้ซื้อไว้ว่ามีความคุ้มครองอะไรบ้าง เนื่องจากปัจจุบันมักเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม บ่อยครั้งซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนซื้อประกันภัยรวมถึงความคุ้มครองเพิ่มเติมเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของท่าน หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186
นอกจากนี้ คปภ.ยังได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เร่งสร้างความรู้และส่งเสริมสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย โดยคาดว่าเกษตรกรกว่า 25 ล้านคน และสหกรณ์การเกษตร จำนวน 4,337 กลุ่ม จากสหกรณ์ทั่วประเทศ จำนวน 8,000 สหกรณ์ จะนำระบบการประกันภัยไปใช้บรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเป็นการสร้างสวัสดิการและความมั่นคงให้กับเกษตรกร
ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยแก่บุคลากรสหกรณ์และเกษตรกรทั่วประเทศ โดยสำนักงาน คปภ.จะให้คำปรึกษาแนะนำด้านข้อมูล และข้อกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อการให้บริการด้านการประกันภัยแก่บุคลากรสหกรณ์และเกษตรกรรวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมให้บุคลากรสหกรณ์ และเกษตรกรใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเป็นหลักประกันความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สินอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น