xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” โยนพาณิชย์-อุตฯ แก้น้ำตาล “ค้าภายใน” บีบตรึงราคาไข่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แผนลดราคาน้ำตาลทรายสะดุด “มาร์ค” เล่นแง่ ไม่เซ็นเข้า ครม.แถมโบ้ยให้พาณิชย์ไปหารืออุตสาหกรรมก่อน คาด สุดท้ายไม่มีการลดราคา “ค้าภายใน” บีบตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละ 2.90-3.00 บาท พร้อมหาทางเชื่อมโยงให้เกษตรกรซื้อวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกจากผู้ปลูกข้าวโพด และผู้ผลิตปลาป่น เพื่อช่วยลดต้นทุน ด้านเกษตรกรคาดตรึงได้แค่ระยะหนึ่ง เหตุต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 25% วอนประชาชนเข้าใจถ้าต้องปรับราคาขึ้นบ้าง

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมลงนามนำเรื่องการขอปรับลดราคาขายปลีกน้ำตาลทราย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนและราคาแพงตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ บรรจุเข้าวาระการพิจารณาของที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 มี.ค.) แต่ได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์นำแนวทางการแก้ปัญหา การยืดระยะเวลาชำระเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ไปหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและโรงงานผู้ผลิตน้ำตาลก่อน เพื่อศึกษาผลดี ผลเสีย และค่อยนำรายละเอียดมาเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้ง

ทั้งนี้ แนวทางที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ มี 2 ทางเลือก คือ ให้ยืดระยะเวลาส่งเงินชดเชยราคาขายปลีกน้ำตาลทรายแก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายออกไป 2 เดือนจากแผนเดิม ซึ่งจะช่วยให้ราคาน้ำตาลทรายขายปลีกลดลงได้ กก.ละ 1 บาท แต่หากรัฐบาลไม่เลือกจะต้องประกาศให้คงราคาขายปลีกน้ำตาลทรายตามเดิม พร้อมทั้งกำชับให้ผู้เกี่ยวข้องกับการผลิตให้ผลิตน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กก. ออกมาจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และสอดคล้องกับปริมาณที่ได้รับจัดสรร

สำหรับการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่า จะหารือภายในสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มว่าข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์อาจตกไป เนื่องจากในองค์ประชุมตัวแทนส่วนใหญ่มาจากฝั่งผู้ผลิต ซึ่งก็คงมีการคัดค้านข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่

รายงานข่าวแจ้งว่า ภาระการจ่ายเงินชดเชยเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จะหมดลงในเดือน ธ.ค.2554 นี้ กระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า ถ้าลดการจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ หรือเลื่อนการจ่ายเงินเข้ากองทุน จะทำให้ราคาขายปลีกน้ำตาลทรายลดลงได้ โดยเบื้องต้นเห็นว่าน่าจะลดลงได้ถึงกก.ละ 5 บาท แต่ท้ายที่สุดได้เสนอให้ลดลงเพียงแค่ กก.ละ 1 บาท เพื่อไม่ให้หน่วยงานที่ดูแลน้ำตาลทรายอย่างกระทรวงอุตสาหกรรมลำบากใจ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากนายกรัฐมนตรี

ก่อนหน้านี้ น้ำตาลทรายมีปัญหาราคาแพงและขาดแคลนมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 1 ปีแล้ว โดยในห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก ไม่สามารถหาซื้อได้ตามปกติ เนื่องจากผู้ผลิตไม่ยอมผลิตบรรจุถุงออกมาขาย เพราะต้นทุนแพกเกจจิ้งแพง และล่าสุด ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาโดยขอปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายบรรจุถุงเป็น กก.ละ 25 บาท จาก กก.ละ 23.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.50 บาท เพื่อชดเชยค่าแพกเกจจิ้ง แต่ก็ได้รับการคัดค้านจากกระทรวงพาณิชย์ และเสนอทางออกสวนทางให้ลดการส่งเงินเข้ากองทุนฯ แทน เพื่อลดราคาขายปลีกน้ำตาลทราย

**“พาณิชย์” บีบตรึงราคาไข่ไก่

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้เลี้ยงไก่ไข่ และตัวแทนจากภาครัฐ เพื่อหาแนวทางลดต้นทุนการผลิตให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาไข่ไก่ในขณะนี้ไม่ปรับตัวสูงขึ้น วานนี้ (22 มี.ค.) ว่า ที่ประชุมได้หาทางลดต้นทุนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ โดยจะเชื่อมโยงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กับสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้สามารถซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ในราคาสมเหตุสมผล รวมถึงจะหารือกับผู้ผลิตปลาป่น โดยจะขอความร่วมมือไม่ให้ขึ้นราคาปลาป่น หลังจากที่ขณะนี้ วัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นมาก

โดยราคาปลาป่น ในเดือน ก.พ.2554 อยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท ขณะนี้ 42 บาท ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาเฉลี่ยปี 2553 กิโลกรัมละ 8.94 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ 10 บาท รำข้าว เฉลี่ยปี 2553 กิโลกรัมละ 9 บาท ขึ้นมาที่กว่า 10 บาท

“เมื่อเราได้เชื่อมโยงผู้ผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ กับผู้เลี้ยงไก่ไข่แล้ว ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงได้ และจะทำให้ราคาไข่ไก่ยืนอยู่ที่ฟองละ 2.90-3.00 บาทได้ระยะหนึ่ง ถ้าจะมีการปรับขึ้นราคาอีก กรมการค้าภายใน จะหารือกับผู้เลี้ยง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อนถึงความจำเป็น และความเหมาะสมของการขึ้นราคา ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตร ได้ตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาต้นทุนการผลิตไข่ไก่และไก่ไข่ เพื่อพิจารณาต้นทุนการผลิตที่แท้จริงแล้ว” นางวัชรี กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาไข่ไก่ในประเทศปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนประมาณฟองละ 10 สตางค์ โดยไข่คละหน้าฟาร์มฟองละ 2.90-3.00 บาท เพราะผลผลิตลดลงจากปัญหาโรคระบาด ภาวะอากาศแปรปรวน ทำให้ไก่ออกไข่น้อยลง และต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก

ด้านตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ยืนยันว่า จะคงราคาขายไข่คละหน้าฟาร์มที่ฟองละ 2.90-3.00 บาทได้อีกระยะหนึ่ง แต่จะนานเท่าใดต้องดูที่ต้นทุนการผลิตด้วย เพราะแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของโลกเพิ่มสูงขึ้นมาต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา และส่งผลให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และรำข้าวในประเทศปรับสูงขึ้นตาม หากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาไข่ไก่ก็ต้องปรับขึ้นตามด้วย ไม่เช่นนั้นเกษตรกรจะขาดทุน และอยู่ไม่ได้ จึงต้องการให้ประชาชนเข้าใจด้วย โดยยอมรับว่า ราคาต้นทุนการเลี้ยงปัจจุบันอยู่ที่ฟองละ 3.00-3.10 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2553 ที่ประมาณ 25% แต่ขายผลผลิตได้เพียงฟองละ 2.90-3.00 บาทเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น