“จีเอฟเอ” ชู 2 แบรนด์หลักกาแฟกับไอศกรีมหัวหอก “คอฟฟี่เวิลด์-ครีมฟัดจ์” แผน 3-5 ปี อัด 540 ล้านบาท ปูพรมเพิ่ม 2 แบรนด์นี้อีก 130 สาขา หวังปีนี้คอฟฟี่เวิลด์ โต 30% หลังปีที่แล้ววูบเป้า
นายเฟรด มาวาด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอฟเอ เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 ปีจากนี้ จะไม่มีการเปิดอาหารแบรนด์ใหม่ในเครือ หลังจากที่ได้ขยายแบรนด์มามากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการทดลองเพื่อพิจารณาดูว่าแบรนด์ใดมีศักยภาพในการลงทุน โดยจากนี้จะเน้น 2 แบรนด์หลัก คือ ร้านกาแฟคอฟฟี่เวิลด์ กับร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ จีเอฟเอได้เปิดตัวหลายแบรนด์ ซึ่งมีทั้งที่ประสบความสำเร็จและที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เช่น คอฟฟี่เวิลด์, เดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่, นิวยอร์กฟิฟท์อเวนิวเดลี่, พิซซ่าคอร์เนอร์, โดนัทเบรกเกอร์, โกลเด้นเพรทเซล, โคนิซซ่า, สโตนไฟร์พิซซ่า คิทเช่น และ โอแปงดอร์ เป็นต้น และล่าสุด เตรียมเปิดตัวร้านอาหารไทย “สุกัญญา” ในดูไบเป็นแห่งแรกขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ ขณะที่ร้านโดนัทเบรกเกอร์มีกระแสว่าได้โยกฐานลงทุนไปอยู่ที่อินเดียแล้ว ส่วนร้านที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตได้ปิดไปแล้ว
สำหรับแผนลงทุนในไทยจากนี้ตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะใช้งบลงทุนรวม 540 ล้านบาท และขยายสาขาร้านคอฟฟี่เวิลด์ให้ครบเป็น 200 สาขา จากปัจจุบันมี 82 สาขา สัดส่วนบริษัท 70% และแฟรนไชส์ 30% และจะเปิดในปีนี้อีก 18 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่ร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่จะเปิดให้ครบรวมเป็น 40 สาขาใน 3 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมี 9 สาขา และปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 5-6 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งเวลานี้ทุกสาขาของเดอะครีมฯเป็นของบริษัทฯทั้งหมด โดยเป้าหมายเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก
“ประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีโอกาสในการลงทุนอีกมาก ส่วนตัวเราเองมองว่าธุรกิจของเรายังมีศักยภาพในการขยายตัวและลงทุนได้อีกมากเช่นกัน แต่อุปสรรคอย่างเดียวที่สำคัญ คือ การหาทำเลดีๆ ที่จะเปิดร้าน เพราะทุกวันนี้หายากมากขึ้น ซึ่งปีที่แล้วเราก็เปิดสาขาได้ไม่เป็นไปตามแผนงาน และผลประกอบการของร้านคอฟฟี่เวิลด์ก็ต่ำเป้าหมายเล็กน้อยเติบโตแค่ 15% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตที่ 25% เพราะปัญหาการหาทำเลดีที่ยากขึ้น และปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีด้วย ส่วนเรื่องวัตถุดิบขึ้นราคาตอนนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า” นายเฟรด กล่าว
ขณะที่ตลาดต่างประเทศเราก็ยังลงทุนต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้เป็นโกลบอลแบรนด์ ซึ่งปัจจุบันร้านอาหารในเครือจีเอฟเอเริ่มขยายสาขาในแถบเอเชียตะวันออกกลางมากกว่า 210 สาขาแล้ว ใน 8 ประเทศ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย จีน บังกลาเทศ มาเลเซีย ซูดาน ยูเออี
ล่าสุด ได้ปรับโฉมร้านคอฟฟี่เวิลด์ใหม่ในรอบ 12 ปี ให้เป็นคอนเซ็ปต์ ลักชัวรี่ ลีฟวิ่งรูม ใช้โทนสีดำสลับเทา ทำให้ผ่อนคลาย โฉมใหม่เปิดเป็นแห่งแรกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ลงทุน 3.5 ล้านบาท และมีบริการใหม่เพิ่มเช่น อาหารไลท์มีล หรือจานเดียวเช่น สปาเก็ตตี้ สลัด เป็นต้น จำนวน 5 รายการ และจะรีโนเวทสาขาเดิมให้เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ สำหรับสาขาคอฟฟี่เวิลด์ที่เปิดมามากกว่า 3 ปีแล้ว ตั้งเป้าหมายคอฟฟี่เวิลด์ปีนี้เติบโต 25-30% โดยใช้งบตลาด 4% จากยอดขาย
นายเฟรด มาวาด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอฟเอ เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 ปีจากนี้ จะไม่มีการเปิดอาหารแบรนด์ใหม่ในเครือ หลังจากที่ได้ขยายแบรนด์มามากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นการทดลองเพื่อพิจารณาดูว่าแบรนด์ใดมีศักยภาพในการลงทุน โดยจากนี้จะเน้น 2 แบรนด์หลัก คือ ร้านกาแฟคอฟฟี่เวิลด์ กับร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ จีเอฟเอได้เปิดตัวหลายแบรนด์ ซึ่งมีทั้งที่ประสบความสำเร็จและที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เช่น คอฟฟี่เวิลด์, เดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่, นิวยอร์กฟิฟท์อเวนิวเดลี่, พิซซ่าคอร์เนอร์, โดนัทเบรกเกอร์, โกลเด้นเพรทเซล, โคนิซซ่า, สโตนไฟร์พิซซ่า คิทเช่น และ โอแปงดอร์ เป็นต้น และล่าสุด เตรียมเปิดตัวร้านอาหารไทย “สุกัญญา” ในดูไบเป็นแห่งแรกขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ ขณะที่ร้านโดนัทเบรกเกอร์มีกระแสว่าได้โยกฐานลงทุนไปอยู่ที่อินเดียแล้ว ส่วนร้านที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตได้ปิดไปแล้ว
สำหรับแผนลงทุนในไทยจากนี้ตั้งเป้าหมายภายใน 3-5 ปี จะใช้งบลงทุนรวม 540 ล้านบาท และขยายสาขาร้านคอฟฟี่เวิลด์ให้ครบเป็น 200 สาขา จากปัจจุบันมี 82 สาขา สัดส่วนบริษัท 70% และแฟรนไชส์ 30% และจะเปิดในปีนี้อีก 18 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 3-4 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่ร้านเดอะครีมแอนด์ฟัดจ์แฟกตอรี่จะเปิดให้ครบรวมเป็น 40 สาขาใน 3 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมี 9 สาขา และปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 5-6 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งเวลานี้ทุกสาขาของเดอะครีมฯเป็นของบริษัทฯทั้งหมด โดยเป้าหมายเน้นการขายแฟรนไชส์เป็นหลัก
“ประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีโอกาสในการลงทุนอีกมาก ส่วนตัวเราเองมองว่าธุรกิจของเรายังมีศักยภาพในการขยายตัวและลงทุนได้อีกมากเช่นกัน แต่อุปสรรคอย่างเดียวที่สำคัญ คือ การหาทำเลดีๆ ที่จะเปิดร้าน เพราะทุกวันนี้หายากมากขึ้น ซึ่งปีที่แล้วเราก็เปิดสาขาได้ไม่เป็นไปตามแผนงาน และผลประกอบการของร้านคอฟฟี่เวิลด์ก็ต่ำเป้าหมายเล็กน้อยเติบโตแค่ 15% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตที่ 25% เพราะปัญหาการหาทำเลดีที่ยากขึ้น และปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีด้วย ส่วนเรื่องวัตถุดิบขึ้นราคาตอนนี้ยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า” นายเฟรด กล่าว
ขณะที่ตลาดต่างประเทศเราก็ยังลงทุนต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้เป็นโกลบอลแบรนด์ ซึ่งปัจจุบันร้านอาหารในเครือจีเอฟเอเริ่มขยายสาขาในแถบเอเชียตะวันออกกลางมากกว่า 210 สาขาแล้ว ใน 8 ประเทศ คือ อินเดีย อินโดนีเซีย จีน บังกลาเทศ มาเลเซีย ซูดาน ยูเออี
ล่าสุด ได้ปรับโฉมร้านคอฟฟี่เวิลด์ใหม่ในรอบ 12 ปี ให้เป็นคอนเซ็ปต์ ลักชัวรี่ ลีฟวิ่งรูม ใช้โทนสีดำสลับเทา ทำให้ผ่อนคลาย โฉมใหม่เปิดเป็นแห่งแรกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ลงทุน 3.5 ล้านบาท และมีบริการใหม่เพิ่มเช่น อาหารไลท์มีล หรือจานเดียวเช่น สปาเก็ตตี้ สลัด เป็นต้น จำนวน 5 รายการ และจะรีโนเวทสาขาเดิมให้เป็นคอนเซ็ปท์ใหม่ สำหรับสาขาคอฟฟี่เวิลด์ที่เปิดมามากกว่า 3 ปีแล้ว ตั้งเป้าหมายคอฟฟี่เวิลด์ปีนี้เติบโต 25-30% โดยใช้งบตลาด 4% จากยอดขาย
