เอแบคโพลล์ เปิดสำรวจ ปชช.อยากได้อะไร พบชาวบ้านร้องช่วยแก้ปัญหาปากท้อง-สินค้าราคาแพง ก่อนยุบสภา ชี้ เป็นยุคข้าวยากหมากแพง รายได้ตกต่ำ สวนทางกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ส่วนการเลือกตั้งครั้งใหม่ อยากได้รัฐบาลที่ เก่งและเร็ว ในการแก้ปัญหาเดือดร้อนของ ปชช.ทำให้ได้อย่างที่พูด ซื่อสัตย์สุจริต ใกล้ชิดประชาชน
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “1 เดือนสุดท้ายของรัฐบาล ประชาชนอยากได้อะไร” โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,106 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2554 เรียงตามลำดับดังนี้ 1.ปัญหาราคาอาหาร ข้าวแกงประจำวันของประชาชน 2.ราคาน้ำมันปาล์ม 3.รายได้ตกต่ำ แต่รายจ่ายสูงขึ้น 4.ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด
5.ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม 6.ปัญหาจราจร 7.ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ 8.ปัญหาแหล่งมั่วสุม การพนัน ก่อความเดือดร้อนรำคาญ 9.ปัญหาคุณภาพการศึกษา และ 10.ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวเสริมว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.8 มองว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในยุครัฐบาลชุดนี้ คือ ยุคของข้าวยา หมากแพง ในขณะที่ร้อยละ 42.2 ไม่คิดเช่นนั้น
ทั้งนี้ ประชาชนที่ถูกศึกษา ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.7 ระบุ ราคาอาหาร ข้าวแกงประจำวันของประชาชน เป็นปัญหาอันดับแรกที่รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องแก้ไขให้เห็นผลงาน ภายใน 1 เดือนก่อนยุบสภา
รองลงมาอันดับสอง คือ ร้อยละ 60.8 ระบุ ราคาน้ำมันปาล์ม อันดับสาม หรือร้อยละ 60.1 ระบุ รายได้ตกต่ำ รายจ่ายสูงขึ้น อันดับที่สี่ หรือร้อยละ 58.8 ระบุ ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติด อันดับที่ห้า หรือร้อยละ 52.7 ระบุปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม และรองๆ ลงไป คือ ปัญหาจราจร ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ ปัญหาแหล่งมั่วสุม การพนัน ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ปัญหาคุณภาพการศึกษา และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ตามลำดับ
เมื่อถามถึงอยากได้รัฐบาลแบบไหนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.4 อยากได้รัฐบาลที่ “เก่งและเร็ว” ในการแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน รองลงมาคือ ร้อยละ 73.9 อยากได้รัฐบาลที่ “ทำให้ได้อย่างที่พูด” และร้อยละ 73.2 อยากได้รัฐบาลที่ซื่อสัตย์สุจริต รองๆ ลงไปคือ รัฐบาลที่เข้าถึง ใกล้ชิดประชาชน เอาจริงเอาจังกับผู้ทำผิดกฎหมาย ยึดหลักคุณธรรม มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน สุขุม รอบคอบ และไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มนายทุนและกลุ่มผลประโยชน์ใดๆ
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 54.2 เป็นเพศหญิง ร้อยละ 45.8 เป็นเพศชาย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า ร้อยละ 6.5 ระบุอายุไม่เกิน 20 ปี ร้อยละ 23.5 อายุ 20-29 ปี และร้อยละ 20.1 อายุ 30-39 ปี ร้อยละ 21.6 ระบุอายุ 40-49 ปี ร้อยละ 28.3 ระบุอายุ 50 ปีขึ้น ตัวอย่างร้อยละ 71.7 ระบุสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี และร้อยละ 28.3 ระบุสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาอาชีพประจำที่ทำอยู่ในปัจจุบันพบว่า ร้อยละ 17.8 ระบุอาชีพรับจ้างทั่วไป ร้อยละ 31.3 ระบุอาชีพธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย ร้อยละ 20.9 ระบุอาชีพพนักงาน/ลูกจ้างเอกชน ร้อยละ 10.2 ระบุอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.9 ระบุเป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 6.2 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ในขณะที่ร้อยละ 5.7 ระบุว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ