ก.อุตฯ ผวากลุ่มยานยนต์ชะงักการผลิต สั่งบีโอไอดึงญี่ปุ่นผลิตอะไหล่รถในไทย คาดไม่เกิน 7 วัน ชง ครม.เศรษฐกิจ พิจารณาได้ นักวิชาการคาดนโยบายการลงทุนญี่ปุ่นต่อจากนี้ไป มีการเปลี่ยนแปลงแน่ คาด จีน-อาเซียน รับอานิสงส์ย้ายฐานการผลิต
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ยอมรับว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น เพราะสต๊อกอะไหล่จะมีอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน
กรณีดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม จึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ศึกษาช่องทางการส่งเสริมให้ญี่ปุ่นมาลงทุนผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่สำคัญในไทย ซึ่งจะมีมาตรการส่งเสริมทั้งเรื่องภาษี และขั้นตอนการอำนวยความสะดวกต่างๆ คาดว่า ภายใน 7 วัน จะสรุปหลักเกณฑ์เสนอที่ประชุมกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) พิจารณาได้
ด้านผู้ช่วยศาสตรจารย์ (ผศ.) กิตติ ประเสริฐสุข รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า จากความรุนแรงของเหตุการณ์สึนามิในญี่ปุ่น ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมหลายประเภทต้องปิดตัวลง จึงเชื่อว่า บางโรงงานจะเพิ่มการผลิตในไทย หรือมีการผลิตให้มากขึ้น
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การฟื้นฟูของญี่ปุ่นจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี ดังนั้นเหตุการณ์นี้จะกดดันความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจในญี่ปุ่น
ผศ.กิตติ กล่าวว่า นโยบายการลงทุนของญี่ปุ่นจะย้ายการผลิตไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และจีน เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยญี่ปุ่นจะทำหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนที่สำคัญเป็นหลัก
**นลท.ญี่ปุ่นยังตอบรับงาน TIFF 2011
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเปิดงานเฟอร์นิเจอร์ไทย หรือ TIFF 2011 ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยระบุว่า แม้ประเทศญี่ปุ่นจะมีปัญหาแผ่นดินไหว แต่ผู้นำเข้าสินค้ารายใหญ่จากเมืองฟูกุโอกะ ฮิโรชิมา และ โตเกียว ส่วนใหญ่ยังตอบรับเข้าร่วมงาน โดยจากจำนวน 18 ราย มีผู้งดเดินทางเพียง 2 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนของไทยในตลาดญี่ปุ่น ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงกว่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในเดือนมกราคม 2554 นี้ ส่งออกไปแล้วเกือบ 20 ล้านดอลลาร์ เติบโตกว่าร้อยละ 20 ขณะที่ภาพรวมการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ปีนี้ ก็คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 10 เช่นกัน
สำหรับงาน TIFF 2011 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2554 นี้ ที่ไบเทค บางนา โดยใน 2 วันสุดท้ายจะเปิดขายปลีกให้กับผู้สนใจทั่วไป คาดว่า จะมีผู้เข้าชมและซื้อสินค้าในงานกว่า 34,000 คน เป็นผู้ชมจากต่างประเทศ 8,000 คน