ส.อ.ท.หารือ “เจโทร” บ่ายวันนี้ เพื่อประเมินผลกระทบภัยพิบัติ พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือญี่ปุ่น ชี้ การสื่อสารยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้การประเมินและแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความล่าช้า ส่วนบริษัทลูกของญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในไทย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิก ส.อ.ท.ด้วย บริษัทเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบเช่นกัน ปธ.เจโทร กรุงเทพฯ ชี้ เร็วเกินไปที่จะสรุปผลกระทบ ยันธุรกิจที่มาลงทุนในไทยแข็งแกร่ง อาจไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจาก บ.ลูก
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในประเทศญี่ปุ่นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยระบุว่า ส.อ.ท.จะหารือกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมแนวทางการรับมือสถานการณ์ เนื่องจากปัจจุบันการสื่อสารยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก รวมถึงการเตรียมช่วยเหลือส่งไปให้ชาวญี่ปุ่นด้วย
นายพยุงศักดิ์ กล่าวเสริมว่า เหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นส่งผลกระทบในหลายด้าน รวมถึงภาคอุตสาหกรรม โดยส่งผลกระทบซัปพลายเออร์ที่เป็นรายย่อย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะการสื่อสารค่อนข้างยากลำบาก แต่ยืนยันว่า ส.อ.ท.จะเร่งทำงานด้านการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เนื่องจากญี่ปุ่นมีการเข้ามาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม บริเวณที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิเป็นภาคการเกษตรและอาหารเป็นส่วนใหญ่ สำหรับบริษัทลูกของญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นสมาชิก ส.อ.ท.ด้วย บริษัทเหล่านี้ยังอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบเช่นกัน คาดว่า จะทราบผลกระทบเร็วๆ นี้
ขณะที่ข่าวการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ คาดว่า ชาวญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญเรื่องการปนเปื้อนในอาหารมากขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดกระแสตื่นตัวความปลอดภัยของอาหาร ประเทศไทยในฐานะประเทศส่งออกอาหารอาจได้รับความสนใจสั่งซื้อมากขึ้น
ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในภาพรวมคงกระทบให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงร้อยละ 0.5 เท่านั้น เพราะมิยากิเป็นเขตอุตสาหกรรมเบา เชื่อว่า รัฐบาลญี่ปุ่นคงอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
“แม้โรงงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของญี่ปุ่นจะปิดกิจการชั่วคราว แต่ว่าไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย เนื่องจากส่วนใหญ่โรงงานที่ปิดตัวลงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเบา ส่วนพื้นที่ของกลุ่มอุตสาหกรรมหนักไม่ได้รับผลกระทบ”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้นักลงทุนญี่ปุ่นชะลอการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยหรือไม่นั้น ช่วงบ่ายของวันนี้จะมีการเข้าหารือกับเจโทรและหอการค้าญี่ปุ่น (เจซีซี) เป็นตัวแทนภาคเอกชนญี่ปุ่น เพื่อแสดงความห่วงใยและสอบถามถึงความต้องการ รวมถึงแนวทางความช่วยเหลือภาคเอกชนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด
ด้าน นายมูเนโนริ ยามาดะ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนได้อย่างไร เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหันมาก โดยเจโทร กรุงเทพฯ เชื่อว่า บริษัทญี่ปุ่นที่มาลงทุนในไทยมีความเข้มแข็งทางธุรกิจ และบางบริษัทอาจไม่ต้องการความช่วยเหลือจากบริษัทลูกในไทย
ขณะเดียวกัน หอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (เจซีซี) ยอมรับว่า ขณะนี้บริษัทลูกของญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยบางส่วนเริ่มหารือกับบริษัทแม่ในญี่ปุ่นว่าต้องการให้บริษัทลูกในไทยช่วยเหลือบริษัทแม่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างไร