เอ็กโก้ ประกาศทุ่มการลงทุนพลังงานทดแทนปีนี้กว่า 7,000 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ใน สปป.ลาว จะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปีนี้
นายวินิจ แตงน้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก้ กล่าวว่า เอ็กโก้ ตั้งเป้ารักษาระดับกำไรในแต่ละปีให้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2554-2558 และจะเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2559-2564 เนื่องจากในระยะสั้นมีกลยุทธ์การลงทุนในการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพหรือร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องแล้วหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ส่วนในระยะยาวจะพัฒนาโครงการใหม่ และเพิ่มกำลังการผลิตในโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว โดยมองหาโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เน้นประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว โดยในปี 2553 เอ็กโก้มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 6,792 ล้านบาท ลดลง 1,143 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากรายได้ค่าไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าระยอง และ บีแอลซีพี ลดลงจากอัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลง ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ประมาณการณ์ไว้แล้ว และต้นทุนขายของโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 เพิ่มขึ้นจากการซ่อมบำรุงรักษา รวมทั้ง ยังมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) ที่เอ็กโก้ได้รับการตอบรับซื้อไฟฟ้าในโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอสพีพีระบบเจนเนอเรชั่น จาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งในรอบแรกที่รับซื้อ 2,000 เมกะวัตต์ และในรอบ 2 ที่รับซื้ออีก 1,500 เมกะวัตต์ รวม 3 โครงการ รวมกำลังการผลิต 375 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่ลงทุนทั้งหมด
นายวินิจ กล่าวอีกว่า ปีนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 6,000 - 7,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการเอสพีพี 3 โครงการ การจ่ายเงินเพื่อซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าถ่านหินเควซอนในประเทศฟิลิปปินส์ ที่เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 26 เป็นประมาณร้อยละ 52 คาดว่า จะจ่ายเงินได้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกปีนี้, การลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระยะที่ 2 เพิ่มอีก 11 เมกะวัตต์ จากระยะแรกมีกำลังการผลิต 73 เมกะวัตต์ และการลงทุนในส่วนของการเข้าซื้อหุ้นโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในสัดส่วนร้อยละ 12.5 สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าไซยะบุรี จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ในเร็วๆ นี้ โดยโรงไฟฟ้าไซยะบุรี มีกำลังการผลิตประมาณ 1,285 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ในปีนี้
นอกจากนี้ เอ็กโก้ เตรียมที่จะขอต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าระยอง ซึ่งมีกำลังการผลิต 1,232 เมกะวัตต์ ระยะเวลาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2537 โดยอยู่ระหว่างการศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าที่จะเสนอให้กับรัฐบาลพิจารณา ส่วนโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าในระยะยาว (พีดีพี 2010) ยังคงให้มีการประมูลโรงไฟฟ้าทางภาคใต้ จำนวน 800 เมกะวัตต์ ซึ่งโรงไฟฟ้าขนอมก็สามารถที่จะเข้าประมูลได้ โดยมีความได้เปรียบในเรื่องที่ดินที่ไม่ต้องซื้อ เพราะสถานที่ตั้งเป็นโรงไฟฟ้าเดิม