ค่าย “มิตซูบิชิ” ไม่หวั่นราคาน้ำมันพุ่ง ฟุ้งรถ“ซีเอ็นจี”ยังขายดี ทั้งเก๋ง “แลนเซอร์” ปิกอัพ “ไทรทัน” เผยมียอดค้างส่งมอบประมาณ 2 เดือน ส่วน “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่” หลังปรับออปชัน-ราคา พร้อมดึงพระเอก“อนันดา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คาดได้การตอบรับดีขึ้น โดยหวังยอดขายปีนี้ 4,500 คัน
นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่บริษัทกลับมองว่าเป็นโอกาสดีของรถยนต์ใช้ก๊าซ “ซีเอ็นจี” ที่บริษัทมีทางเลือกให้ลูกค้าหลากหลายรุ่น ทั้ง เก๋ง “แลนเซอร์” ปิกอัพ “ไทรทัน” ตัวถังซิงเกิลแค็บ เมกาแค็บ และดับเบิลแค็บ
“รถซีเอ็นจีของเราได้การตอบรับเป็นอย่างดี อย่าง แลนเซอร์ ได้เพิ่มกำลังผลิตเป็น 400 คันต่อเดือน ส่วนไทรทันประมาณ 1,500-1,800 คันต่อเดือน และตอนนี้ยังมียอดค้างส่งมอบประมาณ 1.5-2 เดือน ส่วนประเด็นที่รัฐบาลจะลอยตัวราคาก๊าซ เราไม่ได้วิตกกังวล เพราะไม่ว่าซีเอ็นจีจะขึ้นเป็น 12-15 บาทต่อกิโลกรัม ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี ที่สำคัญถ้ารัฐบาลจะปรับราคาซีเอ็นจีแล้ว ก็คงต้องขยับราคาพลังงานอื่นๆเหมือนกันทั้งกระดานด้วย”
นอกจากนี้จากการที่รัฐบาลเตรียมปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ บริษัทก็ไม่มีปัญหาและพร้อมปรับตัวตามระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตามหากดูจากทิศทางของกรอบภาษีใหม่ ที่เน้นเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ถือว่าเข้าทางบริษัทที่ตระหนักในเรื่องนี้อยู่แล้ว และนับเป็นแนวทางเดียวกับการพัฒนารถยนต์มิตซูบิชิ ไม่ว่าจะเป็นรถซีเอ็นจี รถรองรับแก็สโซฮอล์ อี20 อี85 รวมถึงรถไฟฟ้า (EV)ในตลาดโลก
นายวิกรานต์ ยังกล่าวถึงการปรับความสดใหม่ให้กับ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” พร้อมดึง“อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ว่า แคมเปญดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคมีมุมมองที่ดีกับ“แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” โดยการปรับเพิ่มออปชันและการทำราคาขายที่คุ้มค่า ตลอดจนการใช้ “อนันดา” มาสะท้อนจุดเด่นจะสามารถจับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ หรือบรรดาผู้หญิงสมัยใหม่วัยทำงาน ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อเดือนให้สูงขึ้น หลังจากที่ผ่านมา “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ทำได้เพียง 300-350 คันต่อเดือนเท่านั้น
ในส่วนยอดขายรวมทุกรุ่นของมิตซูบิชิในปี 2554 จะทำได้ตามเป้าหมาย 50,000คัน พร้อมครองส่วนแบ่งตลาด 6% ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 4,000-4,500 คัน แลนเซอร์ ซีเอ็นจี 4,000 คัน สเปซวากอน 1,000 คัน ไทรทัน 27,000 คัน และ ปาเจโร่ สปอร์ต 14,000คัน
ขณะที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2011 ที่จะเริ่มปลายเดือนมีนาคมนี้ บริษัทเตรียมนำรถต้นแบบ มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล หรือว่าที่รถอีโคคาร์ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในไทยเดือนมีนาคม 2555 เข้ามาอวดโฉม ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการแถมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับทุกรุ่น และคาดว่าจะทำยอดขายรวมภายในงานถึง 2,000 คัน
นายวิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่บริษัทกลับมองว่าเป็นโอกาสดีของรถยนต์ใช้ก๊าซ “ซีเอ็นจี” ที่บริษัทมีทางเลือกให้ลูกค้าหลากหลายรุ่น ทั้ง เก๋ง “แลนเซอร์” ปิกอัพ “ไทรทัน” ตัวถังซิงเกิลแค็บ เมกาแค็บ และดับเบิลแค็บ
“รถซีเอ็นจีของเราได้การตอบรับเป็นอย่างดี อย่าง แลนเซอร์ ได้เพิ่มกำลังผลิตเป็น 400 คันต่อเดือน ส่วนไทรทันประมาณ 1,500-1,800 คันต่อเดือน และตอนนี้ยังมียอดค้างส่งมอบประมาณ 1.5-2 เดือน ส่วนประเด็นที่รัฐบาลจะลอยตัวราคาก๊าซ เราไม่ได้วิตกกังวล เพราะไม่ว่าซีเอ็นจีจะขึ้นเป็น 12-15 บาทต่อกิโลกรัม ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี ที่สำคัญถ้ารัฐบาลจะปรับราคาซีเอ็นจีแล้ว ก็คงต้องขยับราคาพลังงานอื่นๆเหมือนกันทั้งกระดานด้วย”
นอกจากนี้จากการที่รัฐบาลเตรียมปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ บริษัทก็ไม่มีปัญหาและพร้อมปรับตัวตามระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตามหากดูจากทิศทางของกรอบภาษีใหม่ ที่เน้นเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ถือว่าเข้าทางบริษัทที่ตระหนักในเรื่องนี้อยู่แล้ว และนับเป็นแนวทางเดียวกับการพัฒนารถยนต์มิตซูบิชิ ไม่ว่าจะเป็นรถซีเอ็นจี รถรองรับแก็สโซฮอล์ อี20 อี85 รวมถึงรถไฟฟ้า (EV)ในตลาดโลก
นายวิกรานต์ ยังกล่าวถึงการปรับความสดใหม่ให้กับ “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” พร้อมดึง“อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ว่า แคมเปญดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคมีมุมมองที่ดีกับ“แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” โดยการปรับเพิ่มออปชันและการทำราคาขายที่คุ้มค่า ตลอดจนการใช้ “อนันดา” มาสะท้อนจุดเด่นจะสามารถจับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ หรือบรรดาผู้หญิงสมัยใหม่วัยทำงาน ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อเดือนให้สูงขึ้น หลังจากที่ผ่านมา “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ทำได้เพียง 300-350 คันต่อเดือนเท่านั้น
ในส่วนยอดขายรวมทุกรุ่นของมิตซูบิชิในปี 2554 จะทำได้ตามเป้าหมาย 50,000คัน พร้อมครองส่วนแบ่งตลาด 6% ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 4,000-4,500 คัน แลนเซอร์ ซีเอ็นจี 4,000 คัน สเปซวากอน 1,000 คัน ไทรทัน 27,000 คัน และ ปาเจโร่ สปอร์ต 14,000คัน
ขณะที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2011 ที่จะเริ่มปลายเดือนมีนาคมนี้ บริษัทเตรียมนำรถต้นแบบ มิตซูบิชิ โกลบอล สมอล หรือว่าที่รถอีโคคาร์ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในไทยเดือนมีนาคม 2555 เข้ามาอวดโฉม ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการแถมฟรีประกันภัยชั้น 1 สำหรับทุกรุ่น และคาดว่าจะทำยอดขายรวมภายในงานถึง 2,000 คัน