นายกฯ คาดในอีก 10 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นกว่า 30 ล้านคนต่อปี ทำรายได้เข้าประเทศกว่าร้อยละ 11 ของจีดีพี ฝากคนไทยรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดี ยันเป็นจุดแข็งดึงดูดใจต่างชาติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดสัมมนาการท่องเที่ยวไทยในทศวรรษหน้า ซึ่งจัดโดยสหพันธ์การท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย ว่า การท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประเทศร้อยละ 7 ต่อปี แม้จะมีวิกฤตการเมือง แต่การท่องเที่ยวสามารถผ่านพ้นอุปสรรคสร้างรายได้ถึง 5.85 แสนล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในปีที่ผ่านมากว่า 15.8 ล้านคน
“คาดว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะทำรายได้กว่าร้อยละ 7.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวม และมีรายได้กว่าร้อยละ 11 โดยมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเท่าตัวถึง 30 ล้านคน”
ดังนั้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ควรส่งเสริมจุดแข็ง ลดจุดด้อย โดยเน้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รักษาประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะอัธยาศัยไมตรี ที่เป็นจุดแข็งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูงผ่านจีนตอนใต้ เชื่อมลาว-ไทย และมาเลเซีย รวมทั้งจะฟื้นฟูและสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จัดตั้งสถาบันคุณวุฒฺวิชาชีพ เพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการพัฒนาการท่องเที่ยว คือการสร้างความมีส่วนร่วมของภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้ กทม.และเชียงใหม่ ได้รับการยอมรับว่า เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของโลก ขณะที่สวีเดน ยกให้ประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก
