xs
xsm
sm
md
lg

ดัน “วรพล”นั่งประธานบอร์ดอีลิท พัฒนาพนักงานรับการเปลี่ยนแปลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดัน “วรพล” นั่ง ประธานบอร์ดอีลิทการ์ด ด้วยมติเอกฉันท์ ขณะที่ท่าทีของรักษาการผู้อำนวยการ ทีพีซี เผย ขอรับภาระกิจเรียกขวัญกำลังใจพนักงาน 75 ชีวิต ของอีลิทการ์ด จี้ทุกฝ่าย เสนอ ประเด็นปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไข พัฒนาตัวเองให้มีคุณค่าพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง เล็งจูงมือประธานบอร์ดป้ายแดง พบผู้ว่า ททท.สัปดาห์หน้าเพื่อรับนโยบาย

นางจันทิมา ศิริแสงทักษิณ อดีตที่ปรึกษากระทรวงการคลัง ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจคาร์ด จำกัด(ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการ บัตร ไทยแลนด์ อีลิทการ์ด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)มีมติเป็นเอกฉันท์ เลือก พ.ต.อ.วรพล อินทเส กรรมการอิสระ ทีพีซี ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานบอร์ดทีพีซี โดยให้มีผลทันที ซึ่งเป็นการเข้ามารับตำแห่ง แทน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ที่ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งในทีพีซี นอกจากนั้นที่ประชุมยังรับทราบการแต่งตั้ง นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการด้านตลาด เอเชีย และแปซิฟิกใต้ เป็นกรรมการ

“ในการรับตำแหน่งประธานบอร์ดครั้งที่ พ.ต.อ.วรพล ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมว่า จะทำหน้าที่ประธานบอร์ด เพื่อประโยชน์ของ ทีพีซี และตรงตามนโยบายของ ททท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่”

นางจันทิมา กล่าวอีกว่า ในส่วนตัว หลังรับตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ ทีพีซี ได้สั่งการให้ทุกแผนกของอีลิทการ์ด ไปจัดทำรายงานส่วนบุคคลและของแผนก ว่า มีจุดอ่อน จุดแข็ง ปัญหาอุปสรรค ใดๆ ในการทำงาน พร้อมแนว ทางการปรับปรุงแก้ไข มานำเสนอโดยเร็วที่สุด เพื่อต้องการปรับคุณภาพบุคคลากรของอีลิทการ์ด ทั้ง 75 ชีวิต ให้เป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการของทุกๆหน่วยงาน ไม่ว่าในอนาคตจะยังมีบริษัททีพีซีอยู่หรือไม่

“ตอนนี้ขวัญกำลังใจของพนักงานต้องสูญเสีย เพราะข่าวสารที่ออกมาจากรัฐบาล และ การท่องเที่ยวฯซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ภาระกิจแรกๆที่จะต้องทำคือเรียกขวัญกำลังใจพนักงานให้คืนมา ร่วมกันทำองค์กรให้มีคุณค่าน่าสนใจ มีเสน่ห์ เพราะต้องการให้องค์กรมีความพร้อมที่จะอยู่หรือไป ดังนั้นการทำให้อีลิทอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นภาระกิจสำคัญ และภายในสัปดาห์หน้า จะขอเข้าพบ ผู้ว่าการ ททท. เพื่อรับนโยบาย”

สำหรับ แนวทางการดำเนินงาน ขณะนี้ต้องมานั่งคิดหาแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มีอยู่และสามารถทำได้ตอนนี้ เพื่อมาสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กร เบื้องต้นมีแนวคิดจะจะนำสิ่งที่ทำได้ เช่น งานด้านการบริการที่สนามบิน มาหาวิธีในการสร้างรายได้ หรือ ชูให้เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ โดยจะต้องศึกษาให้รอบคอบ เนื่องจากมติบอร์ด ททท. ณ วันที่ 24 ก.พ.52 ระบุไว้ 4ข้อห้ามสำหรับทีพีซี คือ ห้ามขายบัตร, ห้ามรับพนักงานเพิ่ม, ห้ามสนับสนุนหน่วยงานภายนอกที่ต้องเสียเงิน และห้ามทำสัญญาที่เป็นภาระผูกพัน ขณะที่ มติ ครม. เมื่อวันที่ 27 ม.ค.52 ให้ทบทวนโครงการอีลิทการ์ด

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า ทีพีซีอาจต้องมีการศึกษาด้วยว่า เป็นไปได้หรือไม่ หาก ทีพีซี จะทำแบบสอบถามไปยังสมาชิกผู้ถือบัตรอีลิทการ์ด กว่า 2,500 คน สอบถามความคิดเห็นที่มีต่อองค์กร ทั้งด้านการให้บริการ และรูปแบบธุรกิจ เพราะการที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินการใดๆกับทีพีซี จะต้องฟังความเห็นจากหลายๆด้าน ทั้งฝ่ายผู้ถือหุ้น พนักงาน และลูกค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียงความคิดเห็นจากรัฐเพียงฝ่ายเดียว

ทั้งนี้กรณีการเปิด ทีโออาร์ เพื่อหาผู้สนใจซื้อกิจการทีพีซี ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการร่างทีโออาร์ได้ เพราะต้องรอการวินิจฉัยจากคณะกรรมการกฤษฎีกา อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ในกรณีการมอบสิทธิ์ถือครองวีซ่านาน 30 ปี ต่ออายุทุก 5 ปี ของสมาชิกผู้ถือบัตรว่าสามารถทำได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น