“สมบัติ” เพี้ยนคล้อยตามไอเดียลิ่วล้อ เล็งเจรจาแบงก์ออมสิน เปิดโครงการ สินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยว ดอกเบี้ยต่ำ ไม่หวั่นเกิด NPL อ้างเป็นวิธีขยายฐานปลุกคนไทยตื่นตัวเที่ยว ส่วนการแถลงแผนงานกระทรวงการท่องเที่ยวปี 2554 เน้นผลักดันแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนฉบับที่ 1 พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการท่องเที่ยวร่วมกัน ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 16.5 ล้านคน โต 5%
วานนี้ (9 ก.พ.) ในงานแถลงข่าวผลงานประจำปี 2553 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการเปิดโครงการสินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้คนไทยที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะมองว่าประโยชน์ของการเดินทางท่องเที่ยวว่าจะช่วยสร้างประสบการณ์ชีวิต
เบื้องต้นจะหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อจะวางกรอบโครงการร่วมกัน รูปแบบอาจจะคล้ายกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กศย.และ ต้องมีระบบป้องกันการเกิดหนี้สูญด้วย เพื่อลดความเสี่ยงให้กับธนาคารผู้ปล่อยกู้ ซึ่งโครงการนี้ จะเปิดโอกาสให้คนไทยเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน แบงก์พาณิชย์ จะมีแคมเปญผ่อน 0% เฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
“แนวคิดนี้ ผมได้คำแนะนำจากทีมคณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศได้ จึงเตรียมศึกษาเพื่อหาแนวทางดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม หากสำเร็จ คาดว่าจะใช้ได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนั้นยังหาแนวทางสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในการนำเงินไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ”
***เร่งดันแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวฉบับที่ 1***
สำหรับภาพรวมแผนนโยบายการทำงานในปี 2554 จะเร่งผลักดันใน 3 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.ผลักดันแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนฉบับที่ 1 (2555-2559) เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ เร่งสร้างองค์ความรู้ทางด้านข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยว ล่าสุด เตรียมร่างทีโออาร์ เปิดประมูลหาบริษัทเอกชนเข้ามารับงานด้านการจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยว ให้เป็นฐานข้อมูลกลางเป็นที่ยอมรับทั้งภาครัฐและเอกชน การการพัฒนาบุคคลากรทางการท่องเที่ยว 2.การจัดทำแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน 8 คลัสเตอร์ เพื่อเตรียมจัดสรรทรัพยากร เงินทุน และ บุคลากร ลงพื้นที่ และ 3.การเดินหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกหรือโครงการรอยัลโค้ช ครอบคลุมตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ถึง จ.ระนอง
***ขันอาสาช่วยประสานงานดันท่องเที่ยว***
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการทำงานอื่นๆ ได้แก่ เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการท่องเที่ยวร่วมกัน ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ทำการตลาด และโฆษณาประชาสัมพันธ์ประเทศ, ร่วมกับกระทรวงกลาโหม เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ทหาร, ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการวางระบบการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติให้มีมาตรฐาน, หารือกับกระทรวงคมนาคม สัปดาห์หน้าจะหารือสายการบินโลว์คอสต์เรื่องมาตรฐานสายการบิน ทั้งด้านราคา และการบริการ, มาตรฐานรถนำเที่ยว และปัญหาเรื่องป้ายบอกทาง ส่งตัวแทนสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ไปหารือกับตัวแทนองค์การบริหารท้องถิ่น เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การบริการ และการประชาสัมพันธ์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่
***ยันศูนย์ประชุมเชียงใหม่มีเวลาทำตลาด***
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ 21 ก.พ.ศกนี้ จะเชิญภาคเอกชนประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นพร้อมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน ขณะที่การก่อสร้าง จะต้องเสนอตั้งของบจัดซื้อคุรุภัณฑ์ ส่วนงานก่อสร้างซึ่งอาจล้าช้าไปบ้าง เพราะระหว่างงานมีข้อติดขัด และ มั่นใจเปิดบริการได้ในปี 2555 อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ยังมีเวลาที่จะให้เอกชนได้ทำการตลาดซึ่งทุกอย่างบรรจุในแผนงานโครงการอยู่แล้ว
***ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 16.5 ล้านคนโต 5% ***
ทางด้าน นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า สำนักงานสถิติการท่องเที่ยว ได้จัดทำรายงานตัวเลขประมาณการนักท่องเที่ยวประจำปี 2554 ที่คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16.5-16.6 ล้านคน เติบโตจากปี 2553 ราว 4.4-5% สร้างรายได้เข้าประเทศ 6.4 แสนล้านบาท โดยมีวันพักเฉลี่ย 9.5 วัน การใช้จ่าย 4,000 บาท ต่อคนต่อวัน การเติบโตที่เกิดขึ้นในปีนี้ มาจากแนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเอเชีย ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ จีน อินเดีย เกาหลี และ ตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดยุโรปบางประเทศ เช่น รัสเซีย และ กลุ่มยุโรปตะวันออก ขณะที่ปัจจัยบวกที่จะเอื้อต่อการเดินทางเข้ามาประเทศไทย คือความสงบทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไว้ที่ 16 ล้านคน
วานนี้ (9 ก.พ.) ในงานแถลงข่าวผลงานประจำปี 2553 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยการเปิดโครงการสินเชื่อเพื่อการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้คนไทยที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพราะมองว่าประโยชน์ของการเดินทางท่องเที่ยวว่าจะช่วยสร้างประสบการณ์ชีวิต
เบื้องต้นจะหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อจะวางกรอบโครงการร่วมกัน รูปแบบอาจจะคล้ายกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กศย.และ ต้องมีระบบป้องกันการเกิดหนี้สูญด้วย เพื่อลดความเสี่ยงให้กับธนาคารผู้ปล่อยกู้ ซึ่งโครงการนี้ จะเปิดโอกาสให้คนไทยเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน แบงก์พาณิชย์ จะมีแคมเปญผ่อน 0% เฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
“แนวคิดนี้ ผมได้คำแนะนำจากทีมคณะที่ปรึกษาปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศได้ จึงเตรียมศึกษาเพื่อหาแนวทางดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม หากสำเร็จ คาดว่าจะใช้ได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้ นอกจากนั้นยังหาแนวทางสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในการนำเงินไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ”
***เร่งดันแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวฉบับที่ 1***
สำหรับภาพรวมแผนนโยบายการทำงานในปี 2554 จะเร่งผลักดันใน 3 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.ผลักดันแผนยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนฉบับที่ 1 (2555-2559) เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการอย่างบูรณาการ เร่งสร้างองค์ความรู้ทางด้านข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยว ล่าสุด เตรียมร่างทีโออาร์ เปิดประมูลหาบริษัทเอกชนเข้ามารับงานด้านการจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยว ให้เป็นฐานข้อมูลกลางเป็นที่ยอมรับทั้งภาครัฐและเอกชน การการพัฒนาบุคคลากรทางการท่องเที่ยว 2.การจัดทำแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน 8 คลัสเตอร์ เพื่อเตรียมจัดสรรทรัพยากร เงินทุน และ บุคลากร ลงพื้นที่ และ 3.การเดินหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกหรือโครงการรอยัลโค้ช ครอบคลุมตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ถึง จ.ระนอง
***ขันอาสาช่วยประสานงานดันท่องเที่ยว***
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการทำงานอื่นๆ ได้แก่ เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการท่องเที่ยวร่วมกัน ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ทำการตลาด และโฆษณาประชาสัมพันธ์ประเทศ, ร่วมกับกระทรวงกลาโหม เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ทหาร, ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการวางระบบการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติให้มีมาตรฐาน, หารือกับกระทรวงคมนาคม สัปดาห์หน้าจะหารือสายการบินโลว์คอสต์เรื่องมาตรฐานสายการบิน ทั้งด้านราคา และการบริการ, มาตรฐานรถนำเที่ยว และปัญหาเรื่องป้ายบอกทาง ส่งตัวแทนสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ไปหารือกับตัวแทนองค์การบริหารท้องถิ่น เกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การบริการ และการประชาสัมพันธ์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่
***ยันศูนย์ประชุมเชียงใหม่มีเวลาทำตลาด***
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ 21 ก.พ.ศกนี้ จะเชิญภาคเอกชนประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นพร้อมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน ขณะที่การก่อสร้าง จะต้องเสนอตั้งของบจัดซื้อคุรุภัณฑ์ ส่วนงานก่อสร้างซึ่งอาจล้าช้าไปบ้าง เพราะระหว่างงานมีข้อติดขัด และ มั่นใจเปิดบริการได้ในปี 2555 อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ยังมีเวลาที่จะให้เอกชนได้ทำการตลาดซึ่งทุกอย่างบรรจุในแผนงานโครงการอยู่แล้ว
***ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 16.5 ล้านคนโต 5% ***
ทางด้าน นายสุพล ศรีพันธ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า สำนักงานสถิติการท่องเที่ยว ได้จัดทำรายงานตัวเลขประมาณการนักท่องเที่ยวประจำปี 2554 ที่คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16.5-16.6 ล้านคน เติบโตจากปี 2553 ราว 4.4-5% สร้างรายได้เข้าประเทศ 6.4 แสนล้านบาท โดยมีวันพักเฉลี่ย 9.5 วัน การใช้จ่าย 4,000 บาท ต่อคนต่อวัน การเติบโตที่เกิดขึ้นในปีนี้ มาจากแนวโน้มการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเอเชีย ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศ จีน อินเดีย เกาหลี และ ตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดยุโรปบางประเทศ เช่น รัสเซีย และ กลุ่มยุโรปตะวันออก ขณะที่ปัจจัยบวกที่จะเอื้อต่อการเดินทางเข้ามาประเทศไทย คือความสงบทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไว้ที่ 16 ล้านคน