เรมี่ คอนโทร ฯ บริษัทแม่ฝรั่งเศส ปรับกลยุทธ์รุกตลาดโลก ลั่น 2-3ปี ขยับราคาร้านค้าปลอดภาษี ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 กลุ่มขึ้น หวังลดช่องว่างราคาห่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตสูง 20% ปลุกตลาดคอนยัค 2 หมื่นลัง ขยายฐานคนทำงานรุ่นใหม่ ส่งเครื่องไอซ์บ็อกซ์ลุยออนพรีมิส ปั้นเครื่องดื่มเรมี่ มาแตง -18 องศา สร้างพฤติกรรมการดื่มเป็นช็อต สิ้นปีแชร์ขยับ1-2% กวาดรายได้รวมโต 5-10% ทะลุ 1 หมื่นลัง
นายกิตติพัฒน์ ไชยกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เรมี่ คอนโทร บริษัท เรมี่ คอนโทร กรุ๊ป ผู้นำเข้าเรมี่ มาแตง คอนยัค กล่าวว่า บริษัทแม่จากประเทศฝรั่งเศสได้วางแผนดำเนินการตลาดเชิงรุก หลังจากเมื่อปี 2552 ได้ถอนตัวจากการร่วมทุนพันธมิตร 3 ราย เพื่อต้องการขยายธุรกิจเอง
โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้การทำตลาดสินค้าในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมีด้วยกัน 5 กลุ่มได้แก่ คอนยัค ไวท์สปิริต รัม บรั่นดี แชมเปญ บริษัทแม่ปรับลดช่องว่างราคา ระหว่างการจำหน่ายผ่านดิวตี้ฟรีกับช่องทางจำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ต จากเดิมที่ดิวตี้ฟรีจำหน่ายถูกกว่า 20% เป็นเหลือ 5-10% เท่านั้น
การทำตลาดในประเทศไทย ปีนี้บริษัทมุ่งเน้นทำตลาดคอนยัค ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มากกว่า 50% ล่าสุดได้วางแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี จากเดิมกลุ่มลูกค้าค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป ตลอดจนขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วน 50% และต่างประเทศ 50% เพื่อลดความเสี่ยงปัจจัยการเมืองไทยส่งผลกระทบต่อปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้ยอดขายในปีที่ผ่านมา ของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% เหลือเพียงการเติบโต 10% หรือยอดขาย 1 หมื่นลัง
นายกิตติพัฒน์ กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดคอนยัค บริษัทได้นำเข้าเรมี่ มาแตง ไอซ์บ็อกซ์ เครื่องดื่มในรูปแบบช็อตอุณหภูมิ -18 องศา เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบใหม่ จากเดิมจะดื่มในลักษณะแก้ว ได้ทุ่มงบ 1 ล้านบาท นำเข้ามาเพิ่มอีก 15-20 เครื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทดลองจำหน่ายในสถานบันเทิง ผับ บาร์ ระดับพรีเมียม 15 เครื่อง จำหน่ายราคาเฉลี่ยต่อช็อต 150-200 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสามารถสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มทำงานรุ่นใหม่และคนไทยได้เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้นำเข้าคอนยัค เรมี่ มาแตง วีเอสโอพี รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย จำนวน 6,000 ขวด ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวไปแล้วที่ประเทศจีน และอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ พร้อมทั้งวางแผนเปิดตัว เมาท์เกย์ รัม เจาะกลุ่มผู้ดื่มกำลังการซื้อสูง เนื่องจากยุทธศาสตร์การทำตลาดของบริษัทต้องการรุกตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียม
สำหรับกลุ่มคอนยัคปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1-2% จากปัจจุบันเรมี่ มาแตง มีส่วนแบ่ง 25-30% ส่วนผู้นำตลาด เฮนเนสซี่ มีส่วนแบ่ง 60% ขณะที่สภาพตลาดคอนยัคนำเข้ามูลค่า 2 หมื่นลัง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดอิ่มตัวและปีนี้คาดว่าเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนผลประกอบการโดยรวมปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 5-10% จากปีที่ผ่านมียอดขาย 1 หมื่นลัง
นายกิตติพัฒน์ ไชยกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เรมี่ คอนโทร บริษัท เรมี่ คอนโทร กรุ๊ป ผู้นำเข้าเรมี่ มาแตง คอนยัค กล่าวว่า บริษัทแม่จากประเทศฝรั่งเศสได้วางแผนดำเนินการตลาดเชิงรุก หลังจากเมื่อปี 2552 ได้ถอนตัวจากการร่วมทุนพันธมิตร 3 ราย เพื่อต้องการขยายธุรกิจเอง
โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้การทำตลาดสินค้าในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งมีด้วยกัน 5 กลุ่มได้แก่ คอนยัค ไวท์สปิริต รัม บรั่นดี แชมเปญ บริษัทแม่ปรับลดช่องว่างราคา ระหว่างการจำหน่ายผ่านดิวตี้ฟรีกับช่องทางจำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ต จากเดิมที่ดิวตี้ฟรีจำหน่ายถูกกว่า 20% เป็นเหลือ 5-10% เท่านั้น
การทำตลาดในประเทศไทย ปีนี้บริษัทมุ่งเน้นทำตลาดคอนยัค ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มากกว่า 50% ล่าสุดได้วางแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25-35 ปี จากเดิมกลุ่มลูกค้าค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป ตลอดจนขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วน 50% และต่างประเทศ 50% เพื่อลดความเสี่ยงปัจจัยการเมืองไทยส่งผลกระทบต่อปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง ทำให้ยอดขายในปีที่ผ่านมา ของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% เหลือเพียงการเติบโต 10% หรือยอดขาย 1 หมื่นลัง
นายกิตติพัฒน์ กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดคอนยัค บริษัทได้นำเข้าเรมี่ มาแตง ไอซ์บ็อกซ์ เครื่องดื่มในรูปแบบช็อตอุณหภูมิ -18 องศา เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบใหม่ จากเดิมจะดื่มในลักษณะแก้ว ได้ทุ่มงบ 1 ล้านบาท นำเข้ามาเพิ่มอีก 15-20 เครื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทดลองจำหน่ายในสถานบันเทิง ผับ บาร์ ระดับพรีเมียม 15 เครื่อง จำหน่ายราคาเฉลี่ยต่อช็อต 150-200 บาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีสามารถสร้างภาพลักษณ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มทำงานรุ่นใหม่และคนไทยได้เพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้บริษัทยังได้นำเข้าคอนยัค เรมี่ มาแตง วีเอสโอพี รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย จำนวน 6,000 ขวด ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวไปแล้วที่ประเทศจีน และอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ พร้อมทั้งวางแผนเปิดตัว เมาท์เกย์ รัม เจาะกลุ่มผู้ดื่มกำลังการซื้อสูง เนื่องจากยุทธศาสตร์การทำตลาดของบริษัทต้องการรุกตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียม
สำหรับกลุ่มคอนยัคปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1-2% จากปัจจุบันเรมี่ มาแตง มีส่วนแบ่ง 25-30% ส่วนผู้นำตลาด เฮนเนสซี่ มีส่วนแบ่ง 60% ขณะที่สภาพตลาดคอนยัคนำเข้ามูลค่า 2 หมื่นลัง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตลาดอิ่มตัวและปีนี้คาดว่าเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนผลประกอบการโดยรวมปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 5-10% จากปีที่ผ่านมียอดขาย 1 หมื่นลัง
