สุดอั้น! ปตท.-บางจาก ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์/ลิตร พรุ่งนี้ตามผู้ค้ารายอื่น หลังค่าการตลาดวูบ-น้ำมันโลกพุ่ง ผู้บริหาร ปตท.ครวญราคาน้ำมันตลาดโลกทำลายสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี จำเป็นต้องปรับขึ้นราคากลุ่มเบนซิน
มีรายงานข่าวว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) พร้อมใจประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลพรุ่งนี้ (วันที่ 14 มกราคม 2554) หลังผู้ค้ารายอื่นปรับขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากค่าการตลาดต่ำเหลือไม่ถึง 1 บาท และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปของ ปตท.และบางจากฯ ในสถานีบริการน้ำมันเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ลิตรละ 39.14 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 34.84 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 32.34 บาท แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 20.62 บาท และแก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 31.44 บาท ส่วนน้ำมันในกลุ่มดีเซลยังคงเดิม ดังนี้ ดีเซลหมุนเร็ว (บี3) ลิตรละ 29.99 บาท และไบโอดีเซล (บี5) ลิตรละ 29.39 บาท
นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน ปตท. กล่าวให้เหตุผลว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันในครั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัญหาอุปทานจากแหล่งผลิตในทะเลเหนือ และท่อส่งน้ำมันของสหรัฐฯ รั่วในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่อุปสงค์การใช้น้ำมันในฤดูหนาวยังคงอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ ปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์ล่าสุดยังคงลดต่ำลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปิดที่ตลาดสิงคโปร์ล่าสุด (วันที่ 12 มกราคม 2554) น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 93.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95 อยู่ที่ 107.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ 105.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งระดับราคาดังกล่าวเป็นระดับราคาที่สูงที่สุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 ดังจะเห็นได้ว่าผู้ค้าหลายรายได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกผลิตภัณฑ์ไปแล้วก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ปตท.ได้ชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปี 2554 อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.10 บาทต่อลิตร โดยเฉพาะค่าการตลาดในกลุ่มดีเซลได้ลดลงเหลือเพียง 0.89 บาทต่อลิตร ล่าสุดในวันนี้ค่าการตลาดรายวันเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 0.71 บาทต่อลิตร และกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 0.48 บาทต่อลิตรเท่านั้น
ดังนั้น ปตท.จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในอัตรา 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลนั้น ถึงแม้ว่าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะได้มีมติให้ลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันไบโอดีเซล บี 5 เพิ่มอีกในอัตรา 0.80 บาทต่อลิตร และ 1.00 บาทต่อลิตร ตามลำดับแล้วก็ตาม ค่าการตลาดภายหลังการปรับลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น คือ อยู่ที่ 1.20 บาทต่อลิตร เท่านั้น ดังนั้น ราคาขายปลีกน้ำมันในกลุ่มดีเซลจึงยังจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายสรัญกล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงผันผวน โดยในระยะสั้นยังคงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก จึงขอรณรงค์ให้ผู้บริโภควางแผนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้ง หันมาใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และขอให้เชื่อมั่นว่า ปตท.ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศให้อยู่ระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
