เทสโก้ โลตัส กระทุ้ง พาณิชย์คุมราคาน้ำมันปาล์มตามกลไกตลาดกำหนดราคาห้างขาย 30 แต่นอกห้างขาย 60 บาท พร้อมคาดการณ์ตลาดค้าปลีกปีนี้โต 7-9%
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้บริหารห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ปัจจุบันราคาต้นทุนน้ำมันปาล์มต่อขวดจากผู้ผลิตอยู่ที่ 57 - 59 บาทต่อขวด ซึ่งบริษัทขายอยู่ในราคาควบคุมที่ 38 บาทต่อขวด แต่ร้านค้าปลีกนอกห้างขายในราคา 60 บาทต่อขวด ทางบริษัทจึงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบการขายน้ำมันปาล์มนอกห้าง หรือปรับเปลี่ยนการควบคุมราคาสินค้าตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงจุดจำหน่ายมากกว่ามากำหนดร้านขายเฉพาะในห้างค้าปลีกเท่านั้น
“การกำหนดราคาขายในห้างที่ 38 บาทต่อขวด อาจจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคบางส่วนที่ซื้อไปใช้จริง แต่ก็มีผู้บริโภคบางส่วนที่ซื้อไปกักตุน หรือขายต่อในราคา 60 บาทต่อขวด ซึ่งการกำหนดราคาเฉพาะห้างค้าปลีกที่มีอยู่เพียง 30% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด ไม่ได้ช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคทั่วไปอย่างแท้จริง โดยบริษัทได้แบกรับภาระต้นทุนของน้ำมันปาล์มมาแล้ว 3 เดือน หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนราคาให้เป็นไปตามราคาต้นทุนที่แท้จริง สักวันหนึ่งบริษัทก็จะไม่สามารถแบกรับภาระนี้ต่อไปได้” นายดามพ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากกระทรวงพาณิชย์ต้องการจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป ก็ควรที่จะควบคุมราคาตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง และเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันปาล์ม หรือราคาสินค้าอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีราคาสูงขึ้น เช่น น้ำตาล นม เป็นต้น
สำหรับกรณีที่ภาครัฐแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด ด้วยการนำเข้าน้ำมัน ปาล์มจากต่างประเทศจำนวน 50,000 ตันนั้น มองว่าเป็นการนำเข้าในปริมาณที่น้อย และไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ แต่บริษัทเห็นด้วยกับนโยบายของภาครัฐในการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะทำให้ไม่เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และช่วยให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยไม่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาค่าครองชีพ
นายดามพ์ กล่าวต่อว่าถึง ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ มีโอกาสเติบโต 7-9% ตามที่สมาคมค้าปลีกไทยได้ประเมินไว้ โดยเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ขยายตัวได้ดีในระดับ 4.5-5% ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อดีขึ้น ทำให้ห้างค้าปลีกขยายตัวได้ต่อเนื่อง
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้บริหารห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ปัจจุบันราคาต้นทุนน้ำมันปาล์มต่อขวดจากผู้ผลิตอยู่ที่ 57 - 59 บาทต่อขวด ซึ่งบริษัทขายอยู่ในราคาควบคุมที่ 38 บาทต่อขวด แต่ร้านค้าปลีกนอกห้างขายในราคา 60 บาทต่อขวด ทางบริษัทจึงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปตรวจสอบการขายน้ำมันปาล์มนอกห้าง หรือปรับเปลี่ยนการควบคุมราคาสินค้าตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงจุดจำหน่ายมากกว่ามากำหนดร้านขายเฉพาะในห้างค้าปลีกเท่านั้น
“การกำหนดราคาขายในห้างที่ 38 บาทต่อขวด อาจจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคบางส่วนที่ซื้อไปใช้จริง แต่ก็มีผู้บริโภคบางส่วนที่ซื้อไปกักตุน หรือขายต่อในราคา 60 บาทต่อขวด ซึ่งการกำหนดราคาเฉพาะห้างค้าปลีกที่มีอยู่เพียง 30% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมด ไม่ได้ช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคทั่วไปอย่างแท้จริง โดยบริษัทได้แบกรับภาระต้นทุนของน้ำมันปาล์มมาแล้ว 3 เดือน หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนราคาให้เป็นไปตามราคาต้นทุนที่แท้จริง สักวันหนึ่งบริษัทก็จะไม่สามารถแบกรับภาระนี้ต่อไปได้” นายดามพ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามหากกระทรวงพาณิชย์ต้องการจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนทั่วไป ก็ควรที่จะควบคุมราคาตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง และเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันปาล์ม หรือราคาสินค้าอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีราคาสูงขึ้น เช่น น้ำตาล นม เป็นต้น
สำหรับกรณีที่ภาครัฐแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด ด้วยการนำเข้าน้ำมัน ปาล์มจากต่างประเทศจำนวน 50,000 ตันนั้น มองว่าเป็นการนำเข้าในปริมาณที่น้อย และไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ แต่บริษัทเห็นด้วยกับนโยบายของภาครัฐในการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพราะทำให้ไม่เกิดปัญหาเงินเฟ้อ และช่วยให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยไม่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาค่าครองชีพ
นายดามพ์ กล่าวต่อว่าถึง ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ มีโอกาสเติบโต 7-9% ตามที่สมาคมค้าปลีกไทยได้ประเมินไว้ โดยเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ขยายตัวได้ดีในระดับ 4.5-5% ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อดีขึ้น ทำให้ห้างค้าปลีกขยายตัวได้ต่อเนื่อง
