ธปท.เจ๊งค่าเงินบาท! เผยผลดำเนินงานปี 52 ขาดทุนกว่า 7.6 พันล้าน หมดสิทธิ์อุ้มกองทุนฟื้นฟูฯ แจงต้นเหตุ แบกภาระ ดบ.จ่ายอื้อกว่า 1.2 หมื่นล้าน ส่วนผลดำเนินงานการบริหารทุนสำรองมีกำไร 8.57 พันล้าน เป็นผลมาจากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น ณ วันสิ้นปีมีส่วนของทุนสูงถึง 8.57 แสนล้านบาท คาดได้รับอานิสงส์จากทองคำหลวงตาบัว 12,087.50 กิโลกรัม ในโครงการผ้าป่าช่วยชาติฯ 15 ครั้ง
นายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผลดำเนินงานในปี 2552 ธปท.มีผลขาดทุนสุทธิ 7,662 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิ 12,102 ล้านบาท จากผลขาดทุนดังกล่าวทำให้ ธปท.จะไม่มีการส่งเงินจากผลดำเนินงานในปี 2552 ไปให้กับกระทรวงการคลังเพื่อชดเชยภาระหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และทำให้ขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 8.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับผลตอบแทนการบริหารเงินของ ธปท.รวมทุกบัญชีอยู่ที่ 4.4% แต่ต้นทุนดอกเบี้ยทั้งหมดอยู่ที่ 1.8% รวมแล้วเป็นอัตรากำไรสุทธิประมาณ 2.6% แต่ถูกผลจากการชดเชยในการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนจากบาทเป็นดอลลาร์ ทำให้เสียต้นทุนไปถึง 4.7% ทำให้มีผลขาดทุนจาการตีสินทรัพย์และหนี้สินจำนวน 6.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรับรู้เข้าส่วนของทุนตามที่กฎหมายกำหนด แต่หากแยกเป็นการนำเงินทุนสำรองไปลงทุนและได้กำไรในรูปดอลลาร์จะอยู่ที่ 3.3% กว่า ขณะที่ต้นทุนในการจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรของ ธปท.อยู่ที่ 2.3%
ส่วนผลดำเนินงานของทุนสำรองเงินตราในปี 2552 กำไรสุทธิ 8,567 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลกำไรจากมูลค่าทองคำเพิ่มขึ้น ณ วันสิ้นปีมีส่วนของทุน 857,058 ล้านบาท ด้านกิจการธนบัตร มีการผลิตธนบัตรทุกชนิดราคาจำนวน 2,757 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้น 0.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งผลดำเนินงานในกิจการธนบัตรมีกำไรสุทธิ 498.7 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตุว่า ปริมาณทองคำที่เป็นทุนสำรองจำนวนมหาศาลที่ทำให้เศรษฐกิจไทยแข้งแกร่งนั้น ได้รับอานิสงค์จากโครงการทอดผ้าป่าช่วยชาติของพระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ซึ่งได้มอบทองคำเข้าคลังหลวงจำนวน 15 ครั้ง จำนวนทั้งสิ้น 12 ตัน 87.5 กิโลกรัม (12,087.50 กิโลกรัม) คิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท