ประธาน ส.อ.ท.หนุนรัฐต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ยอมรับ กังวลการชุมนุมของเสื้อแดง เพราะยังมีสัญญาณความรุนแรงซ่อนเร้นอยู่ หอการค้าฯ ชี้ สถานการณ์ยังน่าห่วง แม้การชุมนุมจะไม่รุนแรง แต่มีเหตุระเบิดจุดสำคัญหลายแห่ง ขณะที่การเจรจาแค่มองท่าที-ยังไม่ได้เริ่มจริง
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หากรัฐบาลจะพิจารณาต่ออายุพระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ) ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 23 มีนาคม 2553 (พรุ่งนี้) เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมทั้งการส่งออกและความเชื่อมั่นนักลงทุน เพราะเห็นว่าการต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นการป้องปรามการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น พร้อมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาช่วงเวลาการประกาศไม่ให้ยืดเยื้อ เพราะอาจส่งผลกระทบกับเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีผลต่อภาคการท่องเที่ยว
ประธาน ส.อ.ท.ยังยอมรับว่า กังวลการชุมนุมมีความรุนแรง รวมทั้งอาจมีการหาเหตุเพื่อเข้าไปปิดล้อมท่าเรือและสนามบิน หากการชุมนุมถึงทางตันแกนนำหาทางลงไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่จะครบกำหนดในวันพรุ่งนี้ โดยระบุว่า แม้สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะยังไม่มีความรุนแรง แต่มีเหตุระเบิดตามสถานที่สำคัญหลายแห่ง อีกทั้งการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่สามารถเริ่มการเจรจาได้ สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้จึงยังน่าเป็นห่วง ดังนั้นรัฐบาลจึงควรขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต่อไป
