ศอ.รส.ถกเครียดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนใน 1 คืน ระบุไม่เหนือความคาดหมาย เชื่อเป็นความพยายามของกลุ่มที่จ้องป่วนเพื่อเร่งเร้าสถานการณ์ สั่ง จนท.กำหนดมาตรการเพิ่ม พร้อมเข้มข้้นเรื่องจุดตรวจ ขณะเดียวกัน เพิ่มความระมัดระวังสถานที่ราชการ หน่วยทหาร และหน่วยงานสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์รวม 30 แห่ง
วันนี้(21มี.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) แถลงข่าวภายหลังการประชุม ศอ.รส.ว่า ที่ประชุมมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอ.รส.เป็นประธาน เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องออกรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ซึ่งที่ประชุมได้หารือกัน 2 เรื่อง คือ การรายงานการเคลื่อนย้ายของกลุ่มผู้ชุมนุมไปตามถนนในพื้นที่ กทม.เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) และเรื่องความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งในเรื่องที่ประชุมได้วิเคราะห์ว่าคงเป็นความพยายามของผู้ที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้น และพยายามเร่งเร้าสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่พยายามทำงานอย่างเต็มที่ แต่เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่จ้องจะกระทำ และผู้ที่พยายามป้องกัน
อย่างไรก็ตาม ทาง ผอ.ศอ.รส.ได้กำชับให้ผู้บังคับหน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้กำหนดมาตรการต่างๆ ในการตั้งจุดตรวจสายตรวจให้เข้มข้นขึ้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น และ ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ
“ทาง ศอ.รส.ไม่ได้ฟันธงว่าผู้ที่สร้างสถานการณ์เป็นฝ่ายใด เพียงแต่กังวลและไม่สบายใจจากภาพที่เกิดขึ้น ซึ่งเราพยายามเต็มที่ที่จะป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องสืบสวนสอบสวน เพราะในที่เกิดขึ้นพบวัตถุพยานหลายอย่าง ทั้งอุปกรณ์ อาวุธ วัตถุระเบิดที่ยึดได้ และรถยนต์ ทั้งนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ชี้แจงถึงเบาะแสเชื่อมโยง ส่วนจะต้องต่อ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ ที่ประชุมยังไม่ได้มีการพูดถึง แต่ ศอ.รส.มีส่วนที่จะประเมินสถานการณ์และนำเสนอขึ้นไป และภายในเย็นวันนี้จะเรียนถามในที่ประชุม ศอ.รส.อีกครั้ง”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงออกมาระบุว่าทหารเป็นผู้สร้างสถานการณ์ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า เป็นแนวทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะชี้แจงก็เป็นเรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่เรายืนยันมาตลอดว่าเจ้าหน้าที่รัฐพยายามทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น คงเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ในสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แห่งใหม่ กระทรวงกลาโหม เป็นต้น ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ยังไม่ถือว่าล้มเหลว เพราะพื้นที่ กทม. กว้าง ทั้งนี้ เราได้มีการเพิ่มจุดตรวจจาก 50 กว่าจุด เป็น 141 กว่าจุด แต่ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่ในโอกาสต่อไปจะต้องทำให้รัดกุมมากกว่านี้ เพราะได้มีการกำชับกันในที่ประชุม
ทั้งนี้ เรื่องความรุนแรงเป็นสิ่งที่กังวล เพราะมีข่าวสารมาก่อนหน้านี้แล้วว่ามีบุคคลพยายามสร้างสถานการณ์ เราจึงได้เพิ่มมาตรการในจุดตรวจ สายตรวจ แต่เหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้น
พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า จากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้ จำนวน 65,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าที่เราได้คาดการณ์เอาไว้ อยู่ที่ประมาณ 30,000 คน ทั้งนี้ กลุ่มชุมนุมที่เพิ่ม 6,000 คน เป็นคนต่างจังหวัด ส่วนที่เหลือเป็นคน กทม. ส่วนการประชุม ครม.ที่จะมีขึ้นนั้นยังไม่ได้มีการกำหนดสถานที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่
รายงานข่าวแจังว่าในการประชุม ศอ.รส.ที่ประชุมประเมินว่า สาเหตุระเบิดไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของ ศอ.รส.เพราะที่ผ่านมา มีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลาว่าจะเกิดระเบิดในสถานที่สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ต่างๆ ทั่ว กทม. แต่ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะผู้ก่อเหตุมักจะปฏิบัติแบบเหวี่ยงแหไปตามสถานที่ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระมัดระวัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าในพื้นที่ได้ระวังป้องกันเต็มที่ แต่เกิดจากความหละหลวม จนส่งผลให้ก่อเหตุได้ ซึ่งได้จัดกำลังเข้าไปจุดตรวจกับตำรวจในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น จนทำให้กำลังในพื้นที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ นายสุเทพไม่ได้ตำหนิอะไร แต่กำชับให้กองทัพต้องระมัดระวังในสถานที่ตั้งหน่วยทหาร และสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ทั่ว กทม.จำนวน 30 แห่ง เช่น กระทรวงต่างๆ ศาลาว่าการ กทม.