ตลาดหุ้นไทยยังคงคึกคัก เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ดัชนีเพิ่มขึ้นอีก 17.37 จุด ปิดตลาดที่ 752.20 จุด มูลค่าการซื้อขายทะลัก 27,395 ล้านบาท ที่น่าสนใจ 15 วันทำการ หุ้นไทยบวกไปแล้ว 36.62 จุด งานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.7 หมื่นล้านบาท เอาเฉพาะจันทร์-อังคารที่ม็อบเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ ดัชนีวิ่งอยู่ในแดนบวกทั้ง 2 วัน!!..
ไม่รู้เงินร้อนหรือไม่ แต่ใครที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด สังเกตท่าที "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เปรียบเทียบ "ทักษิณ ชินวัตร" แล้ว คงเห็นแนวโน้มทางการเมืองหลังม็อบหมดสัญญาจ้าง "เสถียรภาพรัฐบาลแน่นปึ๊ก" ยุบหรือไม่ยุบสภา นายกฯ มาร์ค "เลือกได้" ช่วงนี้ลุ้นแค่ไม่ให้เกิดเหตุเผาบ้านเผาเมือง ถ้ารัฐบาลกับหน่วยงานด้านความมั่นคงสกัดฮาร์ดคอร์ได้ นักธุรกิจไทย-เทศก็ไม่ต้องกังวล...
ตามฟอร์ม โบรเกอร์ในตลาดหุ้นแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรมและการบินไทย (THAI) ใครก็พูดได้ เพราะเป็นหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองมากที่สุด ลองไปดูเป็นรายตัว หุ้น THAI ก่อนม็อบ 3 วัน หุ้นติดลบจริง กระทั่งวานนี้ (16 มี.ค.) THAI บวก 0.70 บาท หรือ 2.93% ขึ้นมาอยู่ที่หุ้นละ 24.60 บาท ไม่น่าเชื่อ...
ขณะที่แบงก์กรุงเทพ (BBL) ธนาคารที่ตกเป็นเครื่องล้มอำมาตย์ของเสื้อแดง ทั้งด่า ประท้วงและวางบึ้ม แต่หุ้นกลับ "บวก" เย้ย มาตั้งแต่ 11 มี.ค.หรือก่อนม็อบกระทั่งม็อบใหญ่ ก็ยังบวก ดูตลาดหุ้นแล้วชี้ชัดๆ นักลงทุน (ต่างชาติ) มั่นใจ จริงมั๊ย?...
สอดรับกับค่าเงินบาท "สุชาดา กิระกุล" ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทช่วงเที่ยงวานนี้ (16 มี.ค.) แตะ 32.42 บาทต่อดอลลาร์ เป็นการ "แข็งค่าขึ้นพรวดพราด" ทำสถิติสูงสุดในรอบ 21 เดือน เป็นผลโดยตรงจากเงินทุนไหลเข้า ต่างชาติขนเงินเข้าตลาดหุ้นติดต่อกันหลายวัน ปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองในประเทศ กลายเป็นโอกาสให้ฝรั่งทำกำไร ซะงั้น...
มาถึงระบบธนาคารพาณิชย์ที่sensitive ไม่แพ้ตลาดหุ้น ไม่รู้คนไทยส่วนใหญ่เชื่อมือ "อภิสิทธิ" หรือว่ากลัวเสื้อแดงจนไม่กล้าออกนอกบ้านกันแน่ ปัญหาที่แบงก์ชาติเคยกังวลเรื่องคนแห่ถอนเงินจึงกลายเป็นคิดมากไปเอง ผู้ว่าฯ "ธาริษา วัฒนเกส" บอกช่วงม็อบฮึ่มๆ แบงก์ชาติไม่พบความผิดปกติการเบิกเงินสดออกจากธนาคาร "ธาริษา" ไม่อ้อมค้อม บอกสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังมีสบายใจว่าเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีทีท่าจะเกิดเหตุรุนแรง นะจ๊ะ...
พูดถึงแบงก์ชาติ ไม่เพียงได้ป้องกันและเฝ้าระวังผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ช่วงม็อบยังไม่เลิก เพื่อความไม่ประมาทในการเดินทางมาทำงานของคนวังบางขุนพรหม จึงอนุญาตให้พนักงานและผู้บริหารสลับกันหยุดงาน หลายคน "ดี๊ด๊ากระตู้วู๊" ยกเว้นรองฯ "เกริก วณิกกุล" ไม่ขาดไม่ลา อยู่โยง เฝ้าแบงก์ชาติเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ยังไงอย่าลืมให้ข่าวน้องนักข่าวประจำแบงก์ชาติบ้าง ขืนเงียบฉี่นักข่าวตกงานกันหมด บาปนะทั่นรองฯ...
ไม่รู้เงินร้อนหรือไม่ แต่ใครที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด สังเกตท่าที "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เปรียบเทียบ "ทักษิณ ชินวัตร" แล้ว คงเห็นแนวโน้มทางการเมืองหลังม็อบหมดสัญญาจ้าง "เสถียรภาพรัฐบาลแน่นปึ๊ก" ยุบหรือไม่ยุบสภา นายกฯ มาร์ค "เลือกได้" ช่วงนี้ลุ้นแค่ไม่ให้เกิดเหตุเผาบ้านเผาเมือง ถ้ารัฐบาลกับหน่วยงานด้านความมั่นคงสกัดฮาร์ดคอร์ได้ นักธุรกิจไทย-เทศก็ไม่ต้องกังวล...
ตามฟอร์ม โบรเกอร์ในตลาดหุ้นแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรมและการบินไทย (THAI) ใครก็พูดได้ เพราะเป็นหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองมากที่สุด ลองไปดูเป็นรายตัว หุ้น THAI ก่อนม็อบ 3 วัน หุ้นติดลบจริง กระทั่งวานนี้ (16 มี.ค.) THAI บวก 0.70 บาท หรือ 2.93% ขึ้นมาอยู่ที่หุ้นละ 24.60 บาท ไม่น่าเชื่อ...
ขณะที่แบงก์กรุงเทพ (BBL) ธนาคารที่ตกเป็นเครื่องล้มอำมาตย์ของเสื้อแดง ทั้งด่า ประท้วงและวางบึ้ม แต่หุ้นกลับ "บวก" เย้ย มาตั้งแต่ 11 มี.ค.หรือก่อนม็อบกระทั่งม็อบใหญ่ ก็ยังบวก ดูตลาดหุ้นแล้วชี้ชัดๆ นักลงทุน (ต่างชาติ) มั่นใจ จริงมั๊ย?...
สอดรับกับค่าเงินบาท "สุชาดา กิระกุล" ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย บอกอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทช่วงเที่ยงวานนี้ (16 มี.ค.) แตะ 32.42 บาทต่อดอลลาร์ เป็นการ "แข็งค่าขึ้นพรวดพราด" ทำสถิติสูงสุดในรอบ 21 เดือน เป็นผลโดยตรงจากเงินทุนไหลเข้า ต่างชาติขนเงินเข้าตลาดหุ้นติดต่อกันหลายวัน ปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองในประเทศ กลายเป็นโอกาสให้ฝรั่งทำกำไร ซะงั้น...
มาถึงระบบธนาคารพาณิชย์ที่sensitive ไม่แพ้ตลาดหุ้น ไม่รู้คนไทยส่วนใหญ่เชื่อมือ "อภิสิทธิ" หรือว่ากลัวเสื้อแดงจนไม่กล้าออกนอกบ้านกันแน่ ปัญหาที่แบงก์ชาติเคยกังวลเรื่องคนแห่ถอนเงินจึงกลายเป็นคิดมากไปเอง ผู้ว่าฯ "ธาริษา วัฒนเกส" บอกช่วงม็อบฮึ่มๆ แบงก์ชาติไม่พบความผิดปกติการเบิกเงินสดออกจากธนาคาร "ธาริษา" ไม่อ้อมค้อม บอกสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังมีสบายใจว่าเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่มีทีท่าจะเกิดเหตุรุนแรง นะจ๊ะ...
พูดถึงแบงก์ชาติ ไม่เพียงได้ป้องกันและเฝ้าระวังผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ช่วงม็อบยังไม่เลิก เพื่อความไม่ประมาทในการเดินทางมาทำงานของคนวังบางขุนพรหม จึงอนุญาตให้พนักงานและผู้บริหารสลับกันหยุดงาน หลายคน "ดี๊ด๊ากระตู้วู๊" ยกเว้นรองฯ "เกริก วณิกกุล" ไม่ขาดไม่ลา อยู่โยง เฝ้าแบงก์ชาติเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ยังไงอย่าลืมให้ข่าวน้องนักข่าวประจำแบงก์ชาติบ้าง ขืนเงียบฉี่นักข่าวตกงานกันหมด บาปนะทั่นรองฯ...