แดดเปรี้ยงเผาแดงกระเจิง “ซาเล้ง” จัดรถ บขส.พร้อมส่งกลับบ้าน

แดดเปรี้ยงเผาแดงกระเจิง โร่แจ้งศูนย์ปลอดภัยฯ ร้องขอให้ช่วยส่งกลับ “ซาเล้ง” ยอมรับมีผู้แจ้งยืนยันแล้ว 2-3 ราย หากเต็มคัน พร้อมจัดรถ บขส. ส่งกลับถึงบ้านทันที ยันกระทรวงคมนาคม ยังเปิดตามปรกติ แต่บางส่วนเข้าทำงานไม่ได้ จึงไปใช้สถานที่ของหน่วยงานอื่นชั่วคราว เพราะการไปขอร้องม็อบเปิดทาง คงเป็นเรื่องยาก

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมศูนย์ติดตามการชุมนุม กรมการขนส่งทางบกเพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยระบุว่า การจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์การชุมนุม รวมถึงศูนย์ปลอดภัยคมนาคมและศูนย์อื่นๆ ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมจัดตั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์แก้ปัญหา โดยเฉพาะการบริหารการเดินรถของระบบขนส่งสาธารณะ รถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประสบความสำเร็จในการทำงานได้ผลน่าพอใจ เป็นไปตามนโยบายกระทรวงคมนาคม เพราะต้องการให้ ขสมก.ให้บริการ ดูแลประชาชนผู้เดินทางทั่วไป รวมถึงผู้มาชุมนุมด้วย

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ขณะนี้เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร้องขอผ่านศูนย์ปลอดภัยของกระทรวงคมนาคม ต้องการจะเดินทางกลับภูมิลำเนาบางส่วน เนื่องจากทนอากาศร้อนไม่ไหว ซึ่งขณะนี้ มีคนที่ทนไม่ไหวจริงๆ และกล้าแจ้งยืนยันเข้ามาแล้ว 2-3 ราย ซึ่งหากมีจำนวนมากพอ และสามารถนั่งโดยสารพร้อมกันได้เต็มคัน กระทรวงคมนาคม ก็ได้สั่งการให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถโดยสารให้ฟรี เพื่อส่งผู้ชุมนุมกลับถึงภูมิลำเนาเดิม

นอกจากนี้ รมว.คมนาคม ยังได้สั่งการเกี่ยวกับการทำงานของข้าราชการสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้อาจประสบปัญหาการเดินทางเข้าไปที่กระทรว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นที่การชุมนุม ให้ทุกหน่วยงาน สามารถเปลี่ยนพื้นที่ โดยไปทำงานที่กรมกองต่างๆ นอกพื้นที่ได้

รมว.คมนาคม ยืนยันว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีการปิดกระทรวงแต่อย่างใด เพราะยังคงมีคนทำงานอยู่ ส่วนการขอความร่วมมือกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้เปิดเส้นทางบางส่วนบริเวณถนนราชดำเนิน เพื่อให้ข้าราชการเข้าไปทำงานได้นั้น คงเป็นเรื่องยาก

มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานวันอังคาร (16 มีนาคม 2553) โดยระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่เดินทางจากต่างจังหวัดมาปักหลักประท้วงขับไล่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในกรุงเทพฯ ได้เริ่มลดจำนวนลงแล้ว เนื่องจากผู้ร่วมประท้วงบางส่วนจำเป็นต้องกลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเกิดเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ผู้ประท้วงอีกจำนวนไม่น้อยต้องขอเงินจากญาติพี่น้องของตนในชนบทมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาประท้วงคราวนี้ นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า สถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งถึงขั้นต้องประกาศขอรับเงินบริจาคเพื่อช่วยให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถอยู่ร่วมประท้วงต่อได้