xs
xsm
sm
md
lg

“สุขุมพันธุ์” ประกาศ 5 ภารกิจขายฝันให้คนกรุงมุ่งแก้ปัญหาพื้นฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุขุมพันธุ์” ประกาศ 5 ภารกิจขายฝันให้คนกรุงมุ่งแก้ปัญหาพื้นฐานหลักทั้งน้ำท่วม ขยะ จราจร ความปลอดภัย และเพิ่มพื้นทีสีเขียว ชี้เป็นการแก้ปัญหาแบบนำไม่ใช่ตามปัญหา มองระยะยาวไม่ใช่วันต่อวัน ย้ำไม่ใช่นโยบายเดิมเพราะเปลี่ยนวิธีคิดแบบใหม่

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ราชประสงค์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลง 5 ภารกิจหลักทางด้านกายภาพภายใต้แนวคิดกรุงเทพฯ ก้าวหน้าแก้เรื่องใหญ่อย่างยั่งยืน Big solutions for big problems เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างเป็นระบบ ครบวงจร โดยกล่าวว่า ภารกิจกรุงเทพฯก้าวหน้าฯ จะเป็นการจัดการปัญหาด้วยวิธีการแบบใหม่ซึ่งที่ผ่านมาปัญหามักจะเกิดก่อนแล้วเราค่อยมาแก้ตามทีหลังแต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนแปลงวิธีคิดโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการคาดคะเนซึ่งจะแก้แบบการนำปัญหาไม่ใช่ตามปัญหาอย่างที่แล้วๆมาซึ่งภารกิจ 5 เรื่องที่ตนจะดำเนินการ ได้แก่ 1.ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันเรามีทั้งสถานีสูบน้ำจำนวน 150 แห่ง มีคลองขนาดต่างๆ เพื่อระบายน้ำอยู่มากกว่า 1,400 คลอง และมีอุโมงค์-ระบายน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวนี้มีประสิทธิภาพในการระบายน้ำรวมกันได้ 155 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ที่มีอยู่ขนาดนี้ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่ 3 ปีที่ผ่านมา กทม.ใช้ไปกว่า 11,000 ล้านบาทเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่ก็ยังไม่พอ ดังนั้นตนจึงอยากจะเห็น กทม.มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมจะรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักที่สุด และน้ำทะเลหนุนรุนแรงที่สุดได้ เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ตนจะให้ทีมงานที่ดูแลในเรื่องน้ำท่วมคิดวิธีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำขึ้นอีกเป็น 2 เท่าตัวในจุดสำคัญๆ ให้ได้ภายใน 4 ปี

2.การเพิ่มสวนสาธารณะเพื่อให้ชาวกทม.มีชีวิตที่ดีกว่า อากาศที่บริสุทธิ์ซึ่งทุกวันนี้ กทม.มีอัตราส่วนพื้นที่สีเขียวต่อจำนวนประชากรอยู่ในอันดับรั้งท้ายเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ชั้นนำของโลกโดย กทม. มีพื้นที่สีเขียวเพียง 3.9 ตารางเมตรต่อคน เทียบกับปารีสที่มีมากกว่าเรากว่า 2 เท่าคือ 9.5 ตารางเมตรต่อคน ในขณะที่นิวยอร์ก 21.6 ตารางเมตรต่อคน และลอนดอน 33.4 ตารางเมตรต่อคน ซึ่ง 33.4 นี้เท่ากับเกือบ 10 เท่าของกรุงเทพฯ ทั้งๆ ที่ลอนดอนเป็นเมืองที่มีที่ดินราคาแพงที่สุดติดอันดับโลกแต่จะให้เราเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็น 30 ตารางเมตรต่อคนเหมือนที่ลอนดอนใน 2-3 ปีคงไม่ได้แต่ตนจะเพิ่มสวนสาธารณะอย่างน้อยอีก 5 แห่งให้ได้ใน 3 ปีนี้

3.ปัญหาจราจร ในกทม.มีผู้โดยสารสัญจรไปมาประมาณ 17 ล้านเที่ยวต่อวัน โดยร้อยละ 60 ใช้รถส่วนตัว ร้อยละ 40 ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และทุกเดือนจะมีรถยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ กว่า 52,000 คัน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายใน 10 ปี กทม.จะไม่สามารถบรรเทาปัญหาจราจรลงได้ เพียงแค่การสร้างถนนเพิ่ม สร้างอุโมงค์ทางลอด ดังนั้นแนวทางการบรรเทาปัญหาจราจรอย่างยั่งยืนจะเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์หลัก ประการแรกคือ ผลักดันให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีเพื่อให้คนหันมาใช้บริการ ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางในเมืองได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ประการที่สอง เริ่มต้นโครงการก่อสร้างเพื่อลดปัญหาคอขวดในจุดหลัก เนื่องจากจุดที่เป็นคอขวดเป็นจุดที่ทำให้เกิดรถติดสะสมต่อเนื่องขยายต่อกันไปหลายถนน

“ใน 3 ปีนี้ ผมต้องการจะเห็นกรุงเทพฯ หนึ่ง มีเครือข่ายที่จะช่วยป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะหลักเพิ่มมากขึ้น ทำให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และครอบคลุมทั่วถึง เพื่อให้คนหันมาใช้บริการ BTS และขนส่งมวลชนกันมากขึ้น และจอดรถไว้ที่บ้าน สอง ผมต้องการที่จะเริ่มต้นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อที่จะสกัดปัญหาคอขวดในจุดสำคัญต่างๆ” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า 4.การจัดการขยะ โดยในปัจจุบันกทม.มีปริมาณขยะ 8,900 ตันต่อวันซึ่งที่ผ่านมาเราสามารถรณรงค์ให้คนลดปริมาณขยะได้ร้อยละ 5 แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะคนกทม.มีมากขึ้นปัญหาขยะจึงมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นถ้าจะแก้ต้องแก้อย่างครบวงจร ใช้วิธีอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งไม่ใช่วิธีการการฝังกลบ และ 5.การเพิ่มความปลอดภัยในกรุงเทพฯ ซึ่งตนให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของประชาชนไว้ในภารกิจ กรุงเทพฯ ก้าวหน้าด้วย ถึงแม้ว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของตำรวจนครบาลเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผมเชื่อว่า กทม.ก็จะสามารถช่วยตำรวจทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ ได้ส่วนหนึ่ง โดยตนได้กำหนดแผนติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) จำนวน 20,000 ตัว และไฟส่องสว่างตามท้องถนน 50,000 ดวงภายในปีพ.ศ. 2555 ไว้แล้ว และได้กำชับให้ทีมงานดูแลการติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนให้ประชาชนได้รับทราบทุก 3-4 เดือน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ทั้ง 5 เรื่องหลักนี้จะดำเนินการควบคู่กันไปในช่วง 3 ปีที่เหลือสำหรับการบริหารงานของตนโดยภารกิจเหล่านี้จะเป็นการวางรากฐานการบริหารกทม.ที่ดีในอนาคตเพื่อทำให้กทม.เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ภารกิจ 5 เรื่องหลักจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนไทยโดยรวมซึ่งหากกลุ่มประเทศอาเซียนประกาศเขตการค้าเสรีอย่างสมบูรณ์คนไทยก็จะได้รับประโยชน์และศูนย์กลางของประเทศไทยคือกทม. ดังนั้นการทำให้กทม.เป็นมหานครที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนก็จะส่งผลให้กทม.ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของกลุ่มประเทศอาเซียนขณะเดียวกันก็จะทำให้กทม.เป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในโลกนี้อีกแห่งหนึ่งซึ่งถือเป็นภารกิจของคนไทยทั้งประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียนโดยรวมเพราะจะช่วยส่งผลให้เศรษฐกิจอาเซียนดีขึ้นได้

“กรุงเทพฯ ก้าวหน้า จะเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุด และครอบคลุมปัญหาหลายด้านที่สุดตั้งแต่เคยมีมา เพื่อยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ระดับสากล เป็นการคิดใหญ่ทำใหญ่เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ซึ่งโดยมอบหมายให้ทีมงานไปศึกษาปัญหา และจะแถลงรายละเอียดเรื่องแรกให้ทราบอีกครั้ง”
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น