นักธุรกิจ อุ่นใจรัฐใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ เพราะมีการกำหนดเวลาที่แน่นอน ถือเป็นการกันเอาไว้ดีกว่าแก้ ห่วงมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ ชี้ หากรุนแรง-ชุมนุมยืดเยื้อ ท่องเที่ยว-ลงทุน ทรุดแน่ เผยรัฐบาล 31 ประเทศ ประกาศเตือนนักท่องเที่ยว “เขมร” เตือนระดับ 5 มีความเสี่ยงสูงสุด
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีกระแสข่าวการใช้ความรุนแรง โดยระบุว่า ตนเองเห็นด้วยที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความมั่นคงระหว่าง 11-23 มีนาคม 2553 เพราะเป็นการป้องกันดีกว่าแก้ไขภายหลัง และการประกาศในครั้งนี้ก็มีการระบุช่วงเวลาที่แน่นอน
กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าฯ ยอมรับว่า นักธุรกิจกังวลเรื่องมือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์ที่นอกเหนือการควบคุม และเกรงการชุมนุมจะยืดเยื้อ เพราะมีกระแสข่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก
ดังนั้น ภาคเอกชนจึงกังวลว่าอาจจะมีการเข้ายึดสถานที่ราชการ และหวั่นว่า จะมีความรุนแรงเหมือนเดือนเมษายน 2552 ซึ่งจะยิ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยประมาณ 14-15 ล้านคน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนถึง 5,000 บาท ซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนมาก
นอกจากนี้ เอกชนยังกังวลว่า หากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยลบให้ไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม เพราะหลังมีการเปิดการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับประเทศต่างๆ ภาษีของทุกประเทศก็จะเหลือร้อยละ 0 ดังนั้น นักธุรกิจอาจจะย้ายฐานการลงทุนไปประเทศอื่น โดยเฉพาะเวียดนาม แม้ว่าไทยจะมีข้อดีในเรื่องสาธารณูปโภคและภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็มีปัจจัยลบที่กดดันคือ การเมือง
“อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในไทยอยู่แล้ว จะไม่ถอนการลงทุน แต่สำหรับนักลงทุนรายใหม่อาจจะชะลอการตัดสินใจเข้าลงทุนในไทยได้”
นายดุสิต นนทะนาคร ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การตัดสินใจประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง แล้วรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมให้เรียบร้อยมีความปลอดภัยเกิดขึ้นกับบ้านเมืองได้ ก็คงจะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความพอใจ ทั้งนักลงทุน นักธุรกิจ แทนที่จะปล่อยให้สถานการณ์ควบคุมไม่ได้
นายประกิต ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประเทศที่ประกาศแนะนำนักท่องเที่ยวให้ระวังการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จำนวน 31 ประเทศ จากเดิมประกาศไปแล้ว 27 ประเทศ โดย 4 ประเทศที่ประกาศเพิ่มเติม คือ บราซิล ลัตเวีย สาธารณรัฐเช็ก และ กัมพูชา โดยทางกัมพูชาเป็นประเทศเดียวที่ประกาศเตือนในระดับสูงสุด คือ ระดับ 4 จากสูงสุดมี 5 ระดับ โดยระบุให้ทบทวนการเข้ามาเที่ยวในไทย
