เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ จ่อคิวโค่นบัลลังก์โป๊ยเซียน อัด 30 ล้านบาท ควงไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง สู้ศึกคู่แข่งตลาดยาดมอัดเทรดโปรโมชันร้านขายยาเดือด ชูจุดขายอีโมชันนัล ทลายภาพลักษณ์ยา มัดใจคนรุ่นใหม่ ลั่นครึ่งปีหลังแตกไลน์สินค้าใหม่ต่อยอด สิ้นปีโต 50% กวาดยอดขาย 60 ล้านบาท รายได้รวม 576 ล้านบาท
นางสุวรรณา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเทมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ บริษัทมุ่งเน้นภายใต้การใช้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง หลังจากในช่วงแรกปีเน้นการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง โดยปีนี้ได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ พร้อมกันนี้ ยังตอกย้ำภาพลักษณ์สินค้าและจุดขายด้านอีโมชันนัลคอนเซปต์ “มิติใหม่ของยาดม เพื่อความผ่อนคลาย สบายๆ และทันสมัย” เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง ที่มีภาพลักษณ์เป็นยาและมีจุดขายฟังก์ชันนัล
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ โดยนำ คริส หอวัง และ รุจ เดอะสตาร์ ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารถึงคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย และมีไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ตลอดจนการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ แรลลี่ ปลูกป่าชายเลน ถ่ายรูปดูนก เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ โดยร้านขายยาจากสัดส่วน 80% เหลือเป็น 65-70% และโมเดิร์นเทรดเพิ่มจาก 20% เป็น 30-35%
ในครึ่งปีหลังบริษัทจะแตกไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม จากปัจจุบัน เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ มีสินค้าด้วยกัน 3 รูปแบบ ยาหม่องในรูปแบบเจล บาล์มชนิดแท่ง และยาดม
นางสุวรรณา กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้กลยุทธ์บลู โอเชี่ยน (Blue Ocean Strategy) หรือน่านน้ำสีฟ้า เพื่อการสร้างความแตกต่างและมองหาตลาดใหม่ๆ โดยบริษัทได้สร้างภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย เท่ เนื่องจากยาดมในตลาดที่ภาพลักษณ์สินค้าที่ดูค่อนข้างมีอายุ สินค้าหลายตัวทำตลาดมากว่า 60 ปี ส่งผลให้เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยปีแรกมียอดขาย 2 ล้านหลอด หรือมีมูลค่ากว่า 44 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3 ล้านหลอด หรือเติบโต 50% เพิ่มเป็นราว 60 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทต้องการขึ้นเป็นผู้นำตลาด
สำหรับภาพการแข่งขันตลาดยาดมมีความรุนแรง โดยเฉพาะผู้นำตลาดโป๊ยเซียน และแบรนด์อื่นๆ อาทิ เจ้าคุณ วาเป๊กซ์ เริ่มทำเทรดโปรโมชันผ่านร้านขายยา และการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ เพื่อช่วงชิงยอดขายและฐานลูกค้า เนื่องจากผู้ใช้ยาดมไม่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และจากการสำรวจพบว่า ปัจจัยการตัดสินใจซื้อยาดม มาจากบรรจุภัณฑ์ กลิ่น และ ณ จุดขาย ส่วนความถี่ในการซื้อสินค้า 1 ครั้งต่อเดือน และจากสภาพอากาศที่ร้อน ส่งผลให้มีความถี่ในการซื้อยาดมเพิ่มขึ้น
ส่วนผลประกอบการโดยรวมของบริษัทปีนี้ คาดว่า จะมีประมาณ 576 ล้านบาท เติบโต 15-20% จากเมื่อปีที่ผ่านมาเติบโต 20% หรือราว 480 ล้านบาท โดยเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ สร้างยอดขาย 15% ของรายได้ และจากการออกแบบจุภัณฑ์ทันสมัย ส่งผลให้ส่งออกไปในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ผ่านช่องทางร้านสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายไม่ถึง 5% ของรายได้รวม ส่วนรายได้ที่เหลืออีก 75% เป็น เซียงเพียงอิ๊วเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมีความภักดีต่อตราสินค้าสูง โดยในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะเปิดตัวสินค้าใหม่ และ 10% เป็นยาดมสมุนไพรกานพลู
นางสุวรรณา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เบอร์แทรมเทมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ บริษัทมุ่งเน้นภายใต้การใช้กลยุทธ์ไลฟ์สไตล์ มาร์เก็ตติ้ง หลังจากในช่วงแรกปีเน้นการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกช่องทาง โดยปีนี้ได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ พร้อมกันนี้ ยังตอกย้ำภาพลักษณ์สินค้าและจุดขายด้านอีโมชันนัลคอนเซปต์ “มิติใหม่ของยาดม เพื่อความผ่อนคลาย สบายๆ และทันสมัย” เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง ที่มีภาพลักษณ์เป็นยาและมีจุดขายฟังก์ชันนัล
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ โดยนำ คริส หอวัง และ รุจ เดอะสตาร์ ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสื่อสารถึงคนรุ่นใหม่ มีความทันสมัย และมีไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ตลอดจนการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อาทิ แรลลี่ ปลูกป่าชายเลน ถ่ายรูปดูนก เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ โดยร้านขายยาจากสัดส่วน 80% เหลือเป็น 65-70% และโมเดิร์นเทรดเพิ่มจาก 20% เป็น 30-35%
ในครึ่งปีหลังบริษัทจะแตกไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม จากปัจจุบัน เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ มีสินค้าด้วยกัน 3 รูปแบบ ยาหม่องในรูปแบบเจล บาล์มชนิดแท่ง และยาดม
นางสุวรรณา กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดตัวยาดมเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ เมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้กลยุทธ์บลู โอเชี่ยน (Blue Ocean Strategy) หรือน่านน้ำสีฟ้า เพื่อการสร้างความแตกต่างและมองหาตลาดใหม่ๆ โดยบริษัทได้สร้างภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย เท่ เนื่องจากยาดมในตลาดที่ภาพลักษณ์สินค้าที่ดูค่อนข้างมีอายุ สินค้าหลายตัวทำตลาดมากว่า 60 ปี ส่งผลให้เพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยปีแรกมียอดขาย 2 ล้านหลอด หรือมีมูลค่ากว่า 44 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3 ล้านหลอด หรือเติบโต 50% เพิ่มเป็นราว 60 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทต้องการขึ้นเป็นผู้นำตลาด
สำหรับภาพการแข่งขันตลาดยาดมมีความรุนแรง โดยเฉพาะผู้นำตลาดโป๊ยเซียน และแบรนด์อื่นๆ อาทิ เจ้าคุณ วาเป๊กซ์ เริ่มทำเทรดโปรโมชันผ่านร้านขายยา และการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ เพื่อช่วงชิงยอดขายและฐานลูกค้า เนื่องจากผู้ใช้ยาดมไม่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และจากการสำรวจพบว่า ปัจจัยการตัดสินใจซื้อยาดม มาจากบรรจุภัณฑ์ กลิ่น และ ณ จุดขาย ส่วนความถี่ในการซื้อสินค้า 1 ครั้งต่อเดือน และจากสภาพอากาศที่ร้อน ส่งผลให้มีความถี่ในการซื้อยาดมเพิ่มขึ้น
ส่วนผลประกอบการโดยรวมของบริษัทปีนี้ คาดว่า จะมีประมาณ 576 ล้านบาท เติบโต 15-20% จากเมื่อปีที่ผ่านมาเติบโต 20% หรือราว 480 ล้านบาท โดยเพพเพอร์มินท์ ฟิลด์ สร้างยอดขาย 15% ของรายได้ และจากการออกแบบจุภัณฑ์ทันสมัย ส่งผลให้ส่งออกไปในประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี ผ่านช่องทางร้านสะดวกเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายไม่ถึง 5% ของรายได้รวม ส่วนรายได้ที่เหลืออีก 75% เป็น เซียงเพียงอิ๊วเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้น ซึ่งกลุ่มเป้าหมายมีความภักดีต่อตราสินค้าสูง โดยในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะเปิดตัวสินค้าใหม่ และ 10% เป็นยาดมสมุนไพรกานพลู
