บริษัทแม่ซาโนฟี่ ปรับนโยบายลุยคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์เต็มสูบ รับมือธุรกิจยาทั่วโลกเติบโตลดลง จ่อลุยสินค้าใหม่เวชสำอาง เอจจิ้ง ไวท์เทนนิ่ง อัด 90 ล้านบาท โหมแลคตาซิดขยายตลาดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นโตพรวดเกือบ 500 ล้านบาท ลั่นไตรมาส 2 จ่อระเบิดนวัตกรรมใหม่ สิ้นปีรั้งบัลลังก์กวาดแชร์ 72-73%
นางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ ผลิตภัณฑ์ แลคตาซิด บริษัท ซาโนฟี่-อเวนตีส (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด เปิดเผยว่า นโยบายบริษัทแม่ซาโนฟี่ – อเวนตีส วางแนวทางการดำเนินธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์มากขึ้น
จากที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์เป็นเรือธงที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ทั้งนี้เพื่อรองรับในอนาคตกลุ่มเวชภัณฑ์เติบโตไม่มากนัก โดยมามีปัจจัยจากประเทศต่างๆ เริ่มมีสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น อาทิ ยุโรป และอเมริกา ทำให้การซื้อเวชภัณฑ์ของคนเริ่มลดลง
ดังนั้นนโยบายการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทโฟกัสกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ในเชิงรุกมากขึ้น จากปัจจุบันภายใต้บริษัทซาโนฟี่ฯ ในกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด กลุ่มยาที่สามารถจำหน่ายตามร้านขายยาโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ อาทิ ยาแก้เจ็บคอ ยารักษาผิวหนัง ตลอดจนเวชสำอาง
ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย เพื่อผิวขาว เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะทยอยนำผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดในอนาคต จากเมื่อปีที่ผ่านมา สัดส่วนรายได้กลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ 700-800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 90 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ 70 ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด โดยมุ่งป้อนข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-35 ปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์และผลักดันให้ตลาดมูลค่า 450 ล้านบาท ให้อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากพบว่าผู้หญิงไทยใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 55% โดยเป็นกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด 30% เมื่อเทียบกับฟิลิปปินส์มีอัตราการใช้ 80-90%
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นปีนี้คาดว่าโต 7-8% หรือเกือบ 500 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านโต 5% เนื่องจากพบว่า พฤติกรรมคนไทยเริ่มดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่”คริส หอวัง” ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันฑ์ทางโทรทัศน์ และกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ขณะเดียวกันเตรียมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ในไตรมาสสอง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ และสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าแลคตาซิดเติบโต 12-15% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 70% เป็น 72-73% รั้งตำแหน่งผู้นำตลาด จากอันดับ 2 บีไนซ์ มีส่วนแบ่ง 7%
นางสาวชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ ผลิตภัณฑ์ แลคตาซิด บริษัท ซาโนฟี่-อเวนตีส (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด เปิดเผยว่า นโยบายบริษัทแม่ซาโนฟี่ – อเวนตีส วางแนวทางการดำเนินธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์มากขึ้น
จากที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์เป็นเรือธงที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ทั้งนี้เพื่อรองรับในอนาคตกลุ่มเวชภัณฑ์เติบโตไม่มากนัก โดยมามีปัจจัยจากประเทศต่างๆ เริ่มมีสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น อาทิ ยุโรป และอเมริกา ทำให้การซื้อเวชภัณฑ์ของคนเริ่มลดลง
ดังนั้นนโยบายการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทโฟกัสกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ในเชิงรุกมากขึ้น จากปัจจุบันภายใต้บริษัทซาโนฟี่ฯ ในกลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด กลุ่มยาที่สามารถจำหน่ายตามร้านขายยาโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ อาทิ ยาแก้เจ็บคอ ยารักษาผิวหนัง ตลอดจนเวชสำอาง
ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย เพื่อผิวขาว เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะทยอยนำผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดในอนาคต จากเมื่อปีที่ผ่านมา สัดส่วนรายได้กลุ่มคอนซูเมอร์เฮลท์แคร์ 700-800 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 90 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ 70 ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นแลคตาซิด โดยมุ่งป้อนข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18-35 ปี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์และผลักดันให้ตลาดมูลค่า 450 ล้านบาท ให้อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากพบว่าผู้หญิงไทยใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 55% โดยเป็นกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด 30% เมื่อเทียบกับฟิลิปปินส์มีอัตราการใช้ 80-90%
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นปีนี้คาดว่าโต 7-8% หรือเกือบ 500 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านโต 5% เนื่องจากพบว่า พฤติกรรมคนไทยเริ่มดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่”คริส หอวัง” ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันฑ์ทางโทรทัศน์ และกิจกรรมโรดโชว์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ขณะเดียวกันเตรียมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ในไตรมาสสอง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ และสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าแลคตาซิดเติบโต 12-15% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 70% เป็น 72-73% รั้งตำแหน่งผู้นำตลาด จากอันดับ 2 บีไนซ์ มีส่วนแบ่ง 7%