รมว.คลังห่วงไทยถูกจัดอันดับมีความเสี่ยงถูกวินาศภัยสูงขึ้น จากอันดับ 11 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 9 ยอมรับ ทั้งเสียใจและเสียดาย เพราะเราได้มีพัฒนาการทาง ศก.ที่ดีขึ้น พร้อมวอนคนไทยต้องตั้งสติ ร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา โดยเชื่อว่าเมืองไทยมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่สูงสุด และเคยมีความสุขที่สุด เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่คลังน้ำมัน-แก๊สผวาข่าวแดงถ่อยติดอาวุธ ซ่องสุมกำลังเตรียมก่อเหตุ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สถาบันเมเปิล คอฟท์ บริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยงระดับโลกสัญชาติอังกฤษ ได้ปรับอันดับความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดวินาศภัยในประเทศไทยจากอันดับที่ 11 มาอยู่ในอันดับที่ 9 โดยยอมรับว่า ตนเองรู้สึกเสียใจและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาไทยได้มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจดีขึ้น
"ปัญหาดังกล่าวมองว่ามาจากปัญหาภายในประเทศ ไม่ใช่เป็นผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศแต่อย่างใด ดังนั้น หากต้องการให้ประเทศความสงบสุข และสามารถผ่านวิกฤตดังกล่าวไปได้ ประชาชนควรจะตั้งสติ"
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับธนาคารของรัฐ จัดทำสายรัดข้อมือเพื่อเตือนสติว่า ที่ผ่านมา คนไทยมีความสุขด้วยกันในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา จึงพยายามหาทางสื่อสารไปให้โลกภายนอกรับรู้ว่า คนไทยรักความสงบ และพยายมหาแนวทางต่างๆ แก้ไขให้ดีขึ้นในอนาคต แต่ประเทศจะเป็นเช่นไรต่อไป คงต้องขึ้นอยู่กับคนในประเทศร่วมกันแก้ไขด้วย
ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีมาตรการเข้มงวดรักษาความปลอดภัยโรงกลั่น คลังน้ำมันและปั๊มน้ำมัน ตามคำแนะนำของรัฐบาลในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองกำลังเกิดความวุ่นวาย และไม่อยากให้มีการใช้สถานีบริการหรือรถแก๊สไปก่อเหตุ